รีวิวปราสาทญี่ปุ่น~ 🏯 มาลองแวะปราสาทโอดาวาระ ระหว่างทางไปฮาโกเน่สักหน่อยไหมละ

Kanto Culture 2018.04.25
สถานที่ชมซากุระบานสะพรั่งที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ณ ปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle (小田原城))

🏯ปราสาทญี่ปุ่น🏯 
ปราสาทญี่ปุ่นระหว่างทางไปฮาโกเน่
ปราสาทโอดาวาระ
ODAWARA CASTLE

小田原城



ปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle (小田原城)) เป็นปราสาทที่สร้างขึ้นเมื่อกลางศตวรรษที่ 15 สร้างให้เแก่ครอบครัวโอโมริ (Omori) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในขณะนั้น และยังเป็นที่พักของกลุ่มโอดาวาระ โฮโจ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในขณะนั้นอีกด้วย พวกเขาได้ใช้ปราสาทโอดาวาระแห่งนี้ เป็นฐานที่มั่นสำหรับการปกครองควบคุมภูมิภาคโดยรอบโตเกียวในปัจจุบันทั้งหมด
หลังจากผ่านประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน ทั้งถูกทำลาย และถูกสร้างขึ้นใหม่อยู่เรื่อยๆ ปัจจุบันนี้ตัวปราสาทก็ได้รับการบูรณะขึ้นมาใหม่อย่างสมบูรณ์ ตามความรักและภักดีของคนในเมืองนั้น
และในตอนนี้ ปราสาทนี้ก็กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โด่งดังในหมู่นักท่องเที่ยว ที่จะต้องแวะให้ได้ก่อนจะเข้าฮาโกเน่ เปรียบเสมือนประตูสู่ฮาโกเน่ก็ว่าได้ และที่นี่ยังเป็นสถานที่ที่ชมดอกซากุระบานสะพรั่งที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง และไม่ได้มีเพียงแต่ดอกซากุระเท่านั้นนะ ยังมีดอกไฮเดรนเยีย, ดอกพลัม, ไม้เลื้อยนานาชนิดของญี่ปุ่น และอีกมากมายเลยทีเดียว!!✿❀✿

🍶สถานที่สุดเพอร์เฟคสำหรับการมาปิกนิก และชมดอกไม้ญี่ปุ่น🌸 

  • สาเกพระราชวังญี่ปุ่น~ (Japanese imperial palace sake) (・∀・)b!!
    สาเกพระราชวังญี่ปุ่น~ (Japanese imperial palace sake) (・∀・)b!!
พวกเราเคยคิดกันเอาไว้ ว่าอยากจะไปเที่ยวปราสาทโอดาวาระกันสักครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูซากุระบาน และในปีนี้ ในที่สุดเราก็มีโอกาศไปกันเสียที! พวกเราก็เลยเตรียมขนมนมเนยเครื่องดื่มไปมากมายเลยละ และจะไปปิกนิกกันท่ามกลางดอกซากุระบานสะพรั่งมากมาย🌸 และที่นี่น่ะ ก็ไม่ได้มีแต่ดอกซากุระเท่านั้น อย่างที่เราเกริ่นนำไปตอนแรก ที่นี่มีดอกไม้ตามฤดูกาลมากมายที่รอเพื่อนๆอยู่ เพื่อนๆสามารถมาเก็บภาพสวยๆที่ต่างกันออกไปในแต่ละช่วงได้เลยนะ~


📅🌼ปฏิทินดอกไม้บาน🌺📅
ดอกพลัม: ตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม ถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์
ดอกซากุระ: ปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายน
กุหลาบพันปี: กลางเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
ไม้เลื้อยญี่ปุ่น: ปลายเดือนเมษายน ถึงต้นเดือนพฤษภาคม
ดอกไอริส: ปลายเดือนพฤษภาคม ถึงปลายเดือนมิถุนายน
ดอกไฮเดรนเยีย: ต้นเดือนมิถุนายน ถึงปลายเดือนมิถุนายน
ดอกบัว: กลางเดือนกรกฎาคม ถึงกลางเดือนสิงหาคม



🏯สถานที่ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์แห่งสงคราม👊


หลังจากที่พวกเราได้นั่งดื่มกัน และเพลิดเพลินไปกับดอกซากุระบานสะพรั่งมากมายรอบตัวแล้ว พวกเราก็เข้าไปยังปราสาทกัน
จริงๆแล้วพวกเราก็ไม่อยากคาดหวังให้ทุกอย่างในนั้นอธิบายเป็นภาษาญี่ปุ่นเท่าไร
และด้วยเหตุผลนี้ เราจะอธิบายสิ่งหลักๆเล็กๆน้อยๆที่เราได้ทราบมาจากข้างในปราสาท
จริงๆแล้วปราสาทนี้ก็มีแอปพลิเคชัน "Odawara Castle Tour Guide App" อยู่ด้วยนะ ดาวน์โหลดกันได้เลย
ภายในแอปพลิเคชันก็จะแสดงข้อมูลต่างๆให้เพื่อนๆได้เรียนรู้กันในภาษาอังกฤษ และภาษาอื่นอีกเล็กน้อย
แต่คำอธิบายต่างๆที่มีนั้น ออกจะน้อยไปนิดนึง พวกเราก็เลยผิดหวังกันนิดหน่อย

  • ด้วยกฎของโฮโจที่แพร่ออกไปทั่วภูมิภาคคันโต ปราสาทโอดาวาระก็มีหน้าที่ปกป้องป้องกันจากการเติบโตของกลุ่มฝ่ายตรงข้ามกลุ่มอื่นๆ และทำให้ที่นี่กลายเป็นหนึ่งในปราสาทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ทั้งๆที่ได้รับการโจมตีครั้งใหญ่หลายต่อหลายครั้ง โดยหลักๆก็จะมีการโจมตีครั้งใหญ่ๆอยู่ 3 ครั้ง มาจาก อุเอสึงิ เคนชิน (Uesugi Kenshin) ปี 1561, ทาเคดะ ชินเง็น (Takeda Shingen) ปี 1569 และโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ (Toyotomi Hideyoshi) ปี 1590 และจากการโจมตีหลายต่อหลายครั้งแบบนี้ ทำให้ยากที่จะรู้จริงๆว่า ปราสาทโอดาวาระแห่งนี้ เคยมีความยิ่งใหญ่มากมายขนาดไหน แต่หากเพื่อนๆได้เข้าไปข้างในแล้ว ก็จะพบกับป้ายที่ติดอยู่บนผนัง แสดงให้เห็นถึงปราสาท 10 ปราสาทที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่จะทำให้เพื่อนๆได้เห็นมุมมองในเรื่องความสูงของปราสาทแล้ว ก็ยังเป็นลิสต์ของปราสาทที่เพื่อนๆ "ควรจะไป" อีกด้วย ➡➡➡
  • 1. ปราสาทโอซาก้า Osaka (大阪城)
    2. ปราสาทนาโกย่า Nagoya (名古屋城)
    3. ปราสาทชิมาบาระ Shimabara (島原半島) ในนางาซากิ
    4. ปราสาทคุมาโมโต้ Kumamoto (熊本城)
    5. ปราสาทฮิเมจิ Himeji (姫路城)
    6. ปราสาทโคคุระ Kokura Castle (小倉城) ในฟุกุโอกะ
    7. ปราสาทโอดาวาระ Odawara Castle (小田原城) 
    8. ปราสาทฮิโรชิมา Hiroshima Castle (広島城)
    9. ปราสาทฟุคุยามะ Fukuyama Castle (福山城) ในฮิโรชิม่า
    10. ปราสาทวาคามัตสึ Wakamatsu Castle (若松城) ในฟุคุชิมะ

  • จากซ้ายไปขวา: โอคุโบะ ทาดาโทโมะ, อินาบะ มาสะโนริ, โอคุโบะ ทาดาโยะ, โฮโจ อุจินะโอะ, โฮโจ อุจิยะสึ
    จากซ้ายไปขวา: โอคุโบะ ทาดาโทโมะ, อินาบะ มาสะโนริ, โอคุโบะ ทาดาโยะ, โฮโจ อุจินะโอะ, โฮโจ อุจิยะสึ
    เมื่อก่อนจะมี 4 กลุ่มด้วยกัน ที่คอยควบคุมปราสาทนี้ต่อๆกันมา ได้แก่ กลุ่มโฮโจ, กลุ่มโอคุโบะ, กลุ่มอาเบะ และกลุ่มอินาบะ โดยมีไดเมียวมากมายที่มีชื่อเสียงใหญ่โตเกี่ยวพันอยู่กับปราสาทโอดาวาระแห่งนี้ หนึ่งในนั้นแน่นอนว่าต้องเป็น โฮโจ อุจินะโอะ (คนที่สองจากทางขวา) เป็นหัวหน้าของกลุ่มโฮโจคนสุดท้าย และได้แต่งงานกับลูกสาวของโทคุกาว่า อิเอยะสึ ซึ่งเป็นเครื่องหมายในการสงบศึกระหว่างทั้งสองฝั่ง และอีกเรื่องที่เราชอบมากๆเกี่ยวกับยุคสมัยเซ็นโกคุก็คือ ทุกๆคนเชื่อมต่อติดกันไปในทิศทางเดียวกันหมด และจริงๆแล้วเราเองก็ไม่ได้ทราบอะไรเลยเกี่ยวกับครอบครัวอินาบะ ฉะนั้นขอไม่พูดถึงอินาบะ มาสะโนริ (คนที่สองจากซ้าย) แล้วกันนะ แต่ว่าเป็นที่ชัดเจนกันว่า ย่าของเขา คือ แม่นมของโทคุกาว่า อิเอมิทสี (หลานของโทคุกาว่า อิเอยะสึ)
  • โฮโจ อุจินาโอะ VS โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ
    โฮโจ อุจินาโอะ VS โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ
    แน่นอนว่าที่นี่จะไม่มีอะไรเลย ถ้าไม่พูดถึงการต่อสู้ระหว่างโทโยโทมิ ฮิเดโยชิ และกลุ่มโอดาวาระ โดยในตอนแรก จบศึกโดยการที่โฮโจกลายเป็นฝั่งที่มีอำนาจเหนือกว่า และปราสาทก็ตกเป็นของโทคุกาว่า อิเอยะสึ
    และจากการจู่โจมครั้งสุดท้ายจากฮิเดโยชิ ครอบครัวโอดาวาระ โฮโจ ได้เตรียมแผ่นสำหรับสะกัดกั้นเอาไว้ โดยการสร้าง และซ่อมเหล่าปราสาทรองต่างๆในหลายๆที่ แต่โทโยโทมิ นำทัพมาถึง 150,000 นาย ทั้งมีความรวดเร็ว และมีความสามารถมาก โดยจบศึกด้วยการปีนปราสาท และยึดปราสาทรองต่างๆ และหลังจากที่ปราสาทโดนยึดโดยโทโยโทมิเป็นเวลาประมาณ 3 เดือน โฮโจ อุจินาโอะก็ตัดสินใจอ่อนข้อให้แก่โทโยโทมิ และนอกเหนือจากการจบศึกนี้แล้ว โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็ยังประสบความสำเร็จ ในการยึดครองในทุกๆเขตแดนของประเทศญี่ปุ่น
  • แผ่นที่เก่าของภูมิภาคคันโต + ปราสาทต่างๆ
    แผ่นที่เก่าของภูมิภาคคันโต + ปราสาทต่างๆ
    พวกเราคิดว่าแผนที่นี้มันดูเจ๋งสุดๆ แสดงให้เห็นถึงจังหวัดทั้งหมดที่อยู่ในภูมิภาคคันโต พร้อมกับชื่อจังหวัดในขณะนั้น และจังหวัดตรงกลางที่ดูใหญ่ที่สุดนั้น ก็คือ จังหวัดมูซาชิ (Musashi Province (武蔵)) ซึ่งก็คือมหานครโตเกียวในขณะนี้ แต่ว่าในตอนนั้น มีพื้นที่กินไปถึงจังหวัดไซตามะ และคานากาว่านิดหน่อย ในแถบนี้มีเพียงแค่สองปราสาทเท่านั้นที่เรารู้จัก แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็คือ ปราสาทเอโดะ (พระราชวังในปัจจุบัน) และปราสาทฮาจิโอจิ (เป็นปราสาทที่อยู่ในลิสต์ที่พวกเราอยากจะไปท่องเที่ยวกัน แม้ว่าที่นี่จะเหลือเพียงแค่ซากปราสาทแล้วก็ตาม) และด้านบนของจังหวัดมูซาชิ ก็คือจังหวัดโคซึเกะ (Kozuke Province (上野)) (ตอนแรกเราอ่านเป็นจังหวัด "อุเอโนะ" (Ueno) เพราะว่าคันจิที่เหมือนกันกับในเขตๆหนึ่งของโตเกียว แต่เราอ่านผิดละ เขินจัง) ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็คือ จังหวัดกุนมะนั่นเอง และเพื่อนๆก็คงกำลังสงสัยถึงปราสาทสีแดงๆที่อยู่ในแผนที่ ด้านล่างของจังหวัดมูซาชิกันอยู่ใช่ไหมละ ใช่แล้ววว นั่นละ คือปราสาทโอดาวาระนั่นเอง! ปราสาทโอดาวาระแห่งนี้ เคยอยู่ในเขตจังหวัดซากามิ (Sagami Province (相模 )) มาก่อน ซึ่งในปัจจุบันก็คือศูนย์กลาง และตะวันตกของจังหวัดคานากาว่าล่ะ

🔍วิวทิวทัศน์จากที่มองเห็นได้จากตัวปราสาท🗻

ถ้าเพื่อนๆขึ้นไปยังบนสุดของปราสาท ก็จะเห็นกับจุดชมวิวละ และในระหว่างทางที่ขึ้นไปข้างบนนั้น เพื่อนๆก็จะต้องเดินขึ้นไป 5 ชั้น ซึ่งก็จะมีอธิบายประวัติศาสตร์เกี่ยวกับปราสาทของโอดาวาระกันตั้งแต่แรกเริ่มเลยทีเดียว ตั้งแต่แรกเริ่ม จนกระทั่งถูกทำลายด้วยแผ่นดินไหว และไม่เหลืออะไรเลยนอกจากซากปราสาท แต่ไม่กี่ปีหลังจากนั้น พวกเขาก็ตัดสินใจที่จะบูรณะปราสาทกันขึ้นมาใหม่ ส่วนวิวทิวทัศน์จากข้างบนนี่ ก็สวยงาม ตรึงตาตรึงใจสุดๆ เพราะว่าไม่มีอะไรมาขัดขวางการถ่ายรูปเลยสักนิดละ

🌳สถานที่ที่น่าสนใจอื่นๆ🌞 


ที่นี่มีอยู่ 3 สถานที่ด้วยกันที่จะต้องซื้อตั๋วเพื่อเข้าชม ได้แก่ หอปราสาทโอดาวาระ (Odawara Castle), ประตูโทคิวากิ (Tokiwagi-Gate) (หอศิลปะซามูไร) และพิพิธภัณฑ์เรคิชิ เคมบุน (สังเกตการณ์) โดยเพื่อนๆสามารถซื้อตั๋วทีละใบๆที่แต่ละทางเข้าของแต่ละที่ได้ หรือจะซื้อตั๋วเป็นชุด ที่จะประหยัดเงินไปมากกว่าก็ได้ แต่เนื่องจากเวลาของพวกเรามีน้อย พวกเราจึงเข้าไปเยี่ยมชมแค่ตัวปราสาทเท่านั้น แต่พวกเราก็ได้วางแผนที่จะมากันอีกครั้ง สำหรับฤดูของดอกไม้อื่นๆ แต่ก่อนอื่นลองมาดูพิพิธภัณฑ์ และหอศิลปะที่ว่ากันแบบคร่าวๆกันเถอะ
  • ซากของคูน้ำฮมมารุที่ล้อมรอบปราสาทไว้
    ซากของคูน้ำฮมมารุที่ล้อมรอบปราสาทไว้
    ก่อนที่จะเกิดศึกครั้งใหญ่กับโทโยโทมิ ฮิเดโยชิขึ้น ที่ปราสาทโอดาวาระกำลังจะสร้างคูน้ำที่เอาไว้ล้อมรอบตัวปราสาท และเมืองอยู่ แต่นั่นก็ไม่ไวพอที่จะป้องกันศึกจากโทโยโทมิ จึงทำให้เหล่าทัพของโทโยโทมิรุกปราสาทเข้ามาได้ และในปัจจุบันนี้ คูน้ำเหล่านี้ก็ได้กลายเป็นสถานที่สำหรับเดินเล่นน่ารักๆกรุบกริบๆ และเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์รอบๆปราสาทโอดาวาระล่ะ♡
  • พิพิธภัณฑ์เรคิชิ เคมบุน (สังเกตการณ์)
    พิพิธภัณฑ์เรคิชิ เคมบุน (สังเกตการณ์)
    ที่นี่พวกเราไม่ได้เข้าไปเยี่ยมชมกัน ที่นี่ยังมีโมเดลจำลองเอาไว้ ที่จะสามารถให้เพื่อนๆได้เรียนรู้ช้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปราสาท และรอบๆตัวปราสาทก็ยังเปิดให้มาปิกนิก และฮานามิกันอีกด้วย

🏯ปราสาทโอดาวาระ🏯

  • แม้ว่าที่นี่จะค่อนข้างไกลไปจากโตเกียวนิดหน่อย (นั่งรถไฟประมาณ 2 ชม.) แต่ว่าที่นี่เป็นปราสาทที่สวยงามสุดๆเลยนะ ทั้งยังเป็นไอเดียที่ดีในของการมาเที่ยวปราสาทที่อยู่ใกล้ๆกับโตเกียวอีกด้วย และจากสถานีโอดาวาระ เดินไปถึงปราสาทโอดาวาระ ก็ใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาทีเท่านั้นเอง ฉะนั้น วิธีการเดินทางมาที่นี่ ก็ง่ายสุดๆด้วยเหมือนกัน! แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเราอยากจะทำ แต่ยังไม่ได้ทำ นั่นก็คือ เมื่อออกจากปราสาทโอดาวาระแล้ว ก็มุ่งตรงไปยังฮาโกเน่ จากนั่นก็หาโรงแรมเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่น (โรงแรมแบบดั้งเดิม) พักกันสักคืน แต่ว่าก็เอาไว้ครั้งหน้าแล้วกันเนอะ!! เพราะว่ามันอยู่ใกล้มากๆเลยละ เดินทางไม่เกิน 20 นาทีเท่านั้นเอง ถ้าเพื่อนๆไม่ไปละก็เสียดายแย่เลย พวกเราแนะนำจริงๆนะ แต่ถึงแม้ว่าเพื่อนๆจะไม่เข้าใจภาษาญี่ปุ่น ก็ไม่ต้องห่วงไปเลย ที่ฐานปราสาท เพื่อนๆสามารถไปยืนฟังเสียงไกด์พูดอธิบายสิ่งต่างๆได้ ถ้าอยากจะฟังน่ะนะ หรือเพื่อนๆอาจจะแค่มาปิกนิก แล้วก็เดินชมรอบๆปราสาทแค่นั้นก็ได้ เท่านี้ก็อิ่มเอมใจสุดๆแล้ว🌞 พวกเรารอไม่ไหวเลยละที่จะกลับไปเที่ยวอีกครั้งนึง และไปชมว่าปราสาทที่เต็มไปด้วยดอกไม้อื่นๆที่นอกจากซากุระได้บานสะพรั่งขึ้นมานั้น มันจะเป็นยังไงกัน🏯 
🏯ปราสาทโอดาวาระ Odawara Castle (小田原城;Odawarajo)
🚉จากสถานีโอดาวาระ (Odawara Station)
วิธีการเดินทาง: เพียงแค่ 2,000 ฟุต (600 เมตร) จากสถานีเท่านั้น
ออกทางทางออกทิศตะวันออก (East Exit) เมื่อออกจากสถานีแล้ว ก็เลี้ยวไปทางขวา เดินจนกว่าจะเจอถนนแยก แล้วค่อยเลี้ยวไปทางซ้าย
เดินไปอีกนิดนึง ก็จะเจอกับทางเข้าไปสู่สวนของปราสาทโอดาวาระ (อยู่ทางขวา) แล้วก็เข้าไปในนั้นกันได้เลย! :) 
⏰เวลาทำการ 09:00 ~ 17:00 น. (เปิดให้เข้าประตูได้ถึง 16:30 น.)
ปิดทำการวันที่ 31 ธันวาคม และวันที่ 1 มกราคม
*ตัวหอคอยปราสาทปิดทำการในวันพุธที่ 2 ของเดือนธันวาคมด้วย
💴
ตั๋วใบเดียว:
หอคอยปราสาท: 500 เยน・200 เยน
ประตูโทคิวากิ (หอศิลปะซามูไร): 200 เยน・60 เยน
พิพิธภัณฑ์เรคิชิ เคมบุน (สังเกตการณ์): 300 เยน・100 เยน
ตั๋วชุด:
หอคอยปราสาท & ประตูโทคิวากิ: 600 เยน・220 เยน
ทั้ง 3 สถานที่: 700 เยน・250 เยน
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS