Ghibli Museum vs. Ghibli’s Grand Warehouse ไปที่ไหนดีนะ?

Tokyo Entertainment จิบลิ 2023.06.14
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของจิบลิที่มีแพลนจะมาท่องเที่ยวญี่ปุ่น แต่กำลังลังเลว่าจะเลือกไปที่ไหนดีระหว่าง Ghibli Museum vs. Ghibli’s Grand Warehouse มาหาคำตอบกันได้ในบทความนี้เลย!
จุดท่องเที่ยวเกี่ยวกับ Ghibli ในประเทศญี่ปุ่น
สตูดิโอจิบลิ เป็นสตูดิโอผลิตอนิเมชั่นชื่อดังของญี่ปุ่น ที่มีตัวมาสคอสสุดน่ารักซึ่งไม่ว่าใครก็ต้องรู้จักอย่างโทโทโร่ (My Neighbor Totoro) และเป็นสตูดิโอผู้ผลิตภาพยนต์ Spirited Away ผลงานเลื่องชื่อระดับรางวัลออสการ์
หากคุณเป็นแฟนตัวยงของจิบลิหรือเป็นคนที่หลงรักในเสน่ห์ความน่ารักของโทโทโร่และกำลังวางแพลนมาเที่ยวญี่ปุ่น ย่อมไม่พลาดที่จะใส่ Ghibli Museum เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทริปด้วยเป็นแน่ แต่ในปี 2022 ได้มีการเปิดตัว Ghibli’s Grand Warehouse ทำให้สาวกจิบลิมีจุดท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งตัวเลือก

ทั้งสองที่เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร? ไม่ว่าที่ไหนก็ดูน่าไป แต่ถ้าเลือกไปได้แค่ที่เดียวจะไปที่ไหนดีนะ? หากยังตัดสินใจไม่ได้ เรามาลองเปรียบเทียบ Ghibli Museum และ Ghibli’s Grand Warehouse แบบมัดต่อมัดกันไปเลยดีกว่า!
 
สถานที่ตั้ง
Ghibli Museum ตั้งอยู่ที่ชานเมืองโตเกียว จึงเหมาะกับผู้ที่มีกำหนดการณ์ท่องเที่ยวในแถบโตเกียวเป็นส่วนใหญ่และมีเวลาท่องเที่ยวจำกัด หากออกเดินทางจากสถานีรถไฟโตเกียวจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที ค่าโดยสารประมาณ 700 เยน ในขณะที่ Ghibli’s Grand Warehouse ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Ghibli Park ตั้งอยู่ที่จังหวัดไอจิ ภูมิภาคชูบุ หากจะเดินทางมาด้วยรถไฟจากโตเกียวจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงและมีค่าโดยสารประมาณ 11,600 เยน

แต่ถ้าคุณเป็นแฟนพันธุ์แท้จิบลิที่ไม่อยากพลาด Ghibli Park การวางแพลนท่องเที่ยวนาโกย่าสัก 2 - 3 วัน ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยนาโกย่าเป็นเมืองใหญ่ของจังหวัดไอจิที่มีขนาดและประชากรเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศญี่ปุ่น มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย สามารถเดินทางด้วยรถไฟชินคันเซนโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
 
พื้นที่
Ghibli Museum อาจเป็นต่อในเรื่องของตำแหน่งที่ตั้ง แต่ Ghibli Park ชนะขาดลอยในเรื่องของพื้นที่

Ghibli Museum ตั้งที่อยู่ที่มุมหนึ่งของสวนสาธารณะในเมืองโตเกียว แม้ว่าจะมีส่วนจัดแสดงที่น่าตื่นตาตึ่นใจ แต่ด้วยขนาดพื้นที่ที่ไม่ใหญ่มากนัก ทำให้ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็สามารถเที่ยวได้จนทั่ว (เว้นแต่ว่าคุณจะแฟนตัวยงที่วางแผนเก็บทุกรายละเอียดของสิ่งจัดแสดงและตามหา Easter Egg ที่ซ่อนอยู่ในกระจกสี)

ในขณะที่ Ghibli Park จะแบ่งเป็นโซน ๆ ทั่วสวน Expo 2005 Aichi Commemorative Park เฉพาะส่วน Ghibli’s Grand Warehouse ก็ใหญ่พอจะให้เที่ยวชมได้อย่างจุใจตลอดวัน ตั้งแต่เช้าจนถึงเวลาปิดให้บริการ
ส่วนจัดแสดง
Ghibli Museum เป็นพิพิธภัณฑ์ที่แนะนำแฟน ๆ ของจิบลิให้รู้จักกับความมหัศจรรย์ของอนิเมชั่น ประกอบไปด้วยห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียน ห้องจัดแสดงประวัติศาสตร์การสร้างอนิเมชั่นที่มีตั้งแต่โซโทรป (zoetrope) จนถึงแผ่นเซลลูลอยด์ (celluloid) และอีกห้องหนึ่งที่จะพาผู้เข้าชมไปแอบดูโต๊ะและพื้นที่ทำงานของเหล่าอนิเมเตอร์ ตั้งแต่อุปกรณ์เครื่องมือที่ใช้จนถึงภาพร่างที่ใช้รังสรรค์ภาพยนตร์

สำหรับ Ghibli’s Grand Warehouse ในส่วนของห้องจัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนจะคล้ายกับที่จัดแสดงใน Ghibli Museum บางครั้งก็อาจจัดในธีมเดียวกันด้วยสเกลที่ใหญ่ขึ้น มีส่วนจัดแสดง Becoming Characters in Memorable Ghibli Scenes จำลองฉากในอนิเมชั่นเรื่องดังของจิบลิหลายฉาก นำผู้เยี่ยมชมเข้าไปสู่ของโลกของจิบลิ ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ราวกับได้ก้าวเข้าในไปอยู่ในฉากหนึ่งของอนิเมชั่นเรื่องโปรด ไม่ว่าจะเป็น Ponyo, Princess Mononoke และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งยังมีหุ่นจำลอง 3 มิติที่ให้คุณสามารถเข้าไปถ่ายรูปได้อย่างใกล้ชิดเสมือนเป็นตัวละครหนึ่งในเรื่อง 
จุดถ่ายรูป
นอกจากจุดถ่ายรูปในส่วนจัดแสดงของ Ghibli’s Grand Warehouse แล้ว ยังมีจุดถ่ายภาพที่น่าสนใจอีกมากมายให้ถ่ายภาพได้เป็น 100 ใบ ไม่ว่าจะเป็น Cat Bus Room, บาร์โทโทโร่, ทหารหุ่นยนต์จาก Laputa: Castle in the Sky คุณสามารถเข้าไปถ่ายเซลฟี่กับยูบาบะในห้องทำงานของเธอ หรือมุดเข้าไปในขวดโหลขนาดเท่าคนจริงเพื่อสัมผัสประสบการณ์ของคนตัวจิ๋วจากเรื่อง  Arietty
ด้วยลักษณะการออกแบบของสถานที่ที่ให้ผู้เข้าชมสามารถเข้าไปโพสท่าทางราวเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวได้ ดังนั้นจะยิ่งสนุกมากขึ้นหากคุณมาเที่ยวที่นี่พร้อมกับเพื่อนที่รู้ใจเพื่อผลัดกันถ่ายภาพให้กันและกัน

ทางฝั่ง Ghibli Museum แม้จะน่าเสียดายที่โซนในอาคารทั้งหมดเป็นโซนห้ามถ่ายรูป แต่นอกตัวอาคารก็ยังมีจุดถ่ายภาพให้คุณได้เก็บความประทับใจไม่น้อย ได้ว่าจะเป็นตัวอาคาร, ส่วนกลางแจ้ง, พื้นที่รอบ ๆ พิพิธภัณฑ์ ไปจนถึงสวนบนดาดฟ้า จุดถ่ายภาพที่ไม่ควรพลาดคือทหารหุ่นยนต์จาก Laputa: Castle in the Sky และโทโทโร่ที่ประจำอยู่ในช่องจำหน่ายตั๋วจำลอง แม้จะไม่ตอบโจทย์มากนักสำหรับสายถ่ายภาพ แต่ก็ช่วยลดปัญหาขัดใจกับการรอคิวถ่ายภาพหรือการถูกบดบังจากผู้เยี่ยมชมท่านอื่น ๆ ทั้งยังช่วยให้เรารวบรวมความสนใจไปที่ส่วนจัดแสดงมากขึ้นได้อีกด้วย!
สรุปแล้วควรเลือกไปที่ไหนก่อนดีกันนะ?
อาจพูดฟันธงไปเลยไม่ได้ว่าที่ไหนดีกว่า เพราะทั้ง 2 แหล่งต่างก็มีข้อดีในแบบของตัวเอง Ghibli Museum ตั้งอยู่ในย่าน Mitaka ของโตเกียวที่สะดวกในการเดินทาง เป็นพิพิธภัณฑ์ที่น่ารักและอบอุ่น ให้คุณอิ่มเอมใจได้อย่างเต็มที่แม้มีเวลาเที่ยวจำกัด ในขณะที่ Ghibli’s Grand Warehouse ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ Ghibli Park นั้นอยู่ทางฝั่งนาโกย่า มีพื้นที่ขนาดใหญ่ให้คุณได้ใช้เวลาได้ตลอดทั้งวัน เต็มไปด้วยจุดถ่ายรูปสุดเซอร์ไพรส์ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้พาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของอนิเมชั่น แต่ไม่ว่าที่ไหนก็เป็นจุดท่องเที่ยวที่แฟนของ Studio Ghibli ไม่ควรพลาดที่จะไปเยี่ยมเยียนให้ได้สักครั้ง!

ติดตามเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง Twitter และ Facebook!
 
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS