ออกเดินทางจากโตเกียว ไปเที่ยวที่ฮอกไกโดด้วยเรือกันเถอะ | ล่องเรือไปกับ Shosen Mitsui Ferry Sunflower

Hokkaido Tour 2018.09.25
นั่งเรือเฟอร์รี่ไปฮอกไกโด แล้วไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมสามแห่งหลักๆ ของฮอกไกโดกัน~

ไฮไลท์ของฮอกไกโด

ฮอกไกโด (Hokkaido) เป็นดินแดนมหัศจรรย์แห่งความหนาวของญี่ปุ่น หลายต่อหลายคน เริ่มจะรู้สึกถึงเสน่ห์และความสวยงามอันเหลือล้นของฮอกไกโดกันแล้ว และนั่นก็ทำให้ฮอกไกโดเป็นที่ที่ต้องห้ามพลาดในการไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นเลยละ แต่ว่าการจะเดินทางไปฮอกไกโดจากโตเกียวเนี่ย เส้นทางไหนจะดีที่สุดละ? รถไฟหัวกระสุน กับเครื่องบิน ก็คงเป็นคำตอบที่ชัดเจนอยู่แล้ว แต่ว่าสำหรับผู้ที่อยากจะเปิดประสบการณ์ใหม่ๆที่แตกต่างกันออกไปละ พวกเราก็เลยมีบางสิ่งอยากจะมาแนะนำให้กับเพื่อนๆในวันนี้กัน! เมื่อก่อน JAPANKURU เคยแนะนำเกี่ยวกับเรือเฟอร์รี่ที่จะพาเพื่อนๆล่องไปจากจังหวัดอิบารากิ (Ibaraki) ไปยังฮอกไกโดกันไปแล้ว พวกเราเคยแนะนำไปเกี่ยวกับ วิธีการใช้บริการระบบเรือเฟอร์รี่ และสิ่งที่ต้องห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวที่จังหวัดอิบารากิกันไปแล้ว... แต่ว่าพวกเรายังไม่เคยพูดถึงว่าอะไรบ้างที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาถึงยังฮอกไกโด! ดังนั้นสำหรับตอนสุดท้ายของซีรีย์เรือเฟอร์รี่นี้ JAPANKURU จะพาเพื่อนๆไปดูกันใกล้ๆว่าทำไมเพื่อนๆถึงควรจะวางแผนมาเที่ยวที่จังหวัดฮอกไกโดเมื่อมาเที่ยวที่ญี่ปุ่น และอะไรที่ต้องห้ามพลาดเมื่อเดินทางมาถึงเทอมินอลท่าเรือโทมะโกะมาอิ (Tomakomai West Port Ferry Terminal) ของฮอกไกโด

เริ่มจากมาซื้อตั๋วกันก่อน

ถ้าหากว่าเพื่อนๆพลาดบทความที่แล้วของพวกเราไป สิ่งแรกที่เพื่อนๆจะต้องทำก็คือ มุ่งตรงไปยังเทอมินอลท่าเรือเฟอร์รี่โออะราอิ (Oarai Port Ferry Terminal) มีทางไปด้วยกันสองทาง คือรถยนต์ส่วนตัว หรือรถบัส เพื่อนๆสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับการเดินทางไปยังเทอมินอลท่าเรือเฟอร์รี่โออะราอิ (Oarai Port Ferry Terminal) จากโตเกียวได้ที่นี่เลย และเมื่อเพื่อนๆเดินทางมาถึงกันแล้ว เพื่อนๆก็สามารถซื้อตั๋ว หรือมารับตั๋วได้ที่เคาท์เตอร์ด้านหน้าได้เลย จากนั้นก็รอออกเดินทางกัน แต่ว่าขอเตือนสิ่งสำคัญไว้หน่อยว่าที่นี่ จะมีเรือเฟอร์รี่ที่แตกต่างกันอยู่ 2 แบบ ได้แก่ เฟอร์รี่ช่วงเย็น และเฟอร์รี่ช่วงค่ำ ถ้าหากออกจากโออะราอิ (Oarai) เวลาออกเรือของทั้งสองจะได้แก่ 19:45 น. และ 01:45 น. ตามลำดับ ดังนั้นก็เลือกเวลาเรือให้เหมาะสมกับแผนการเดินทางของเพื่อนๆเองนะ!
📅จองได้ที่นี่เลย!
💴ดูราคาเรือเฟอร์รี่ได้ที่นี่เลย!

จากโตเกียว ไปสู่ฮอกไกโด ด้วยเรือเฟอร์รี่ ~

จริงๆแล้วยังมีอีกหลายวิธีการเดินทาง ที่จะเดินทางไปยังฮอกไกโดได้ แต่ว่าด้วยการเดินทางแบบใหม่ แต่ดั้งเดิมสุดๆสำหรับการเดินทางไปยังฮอกไกโด ก็คือเรือเฟอร์รี่นี่แหละ วิธีการเดินทางนี้ มีกุญแจสำคัญที่จะต้องทำอยู่น้อยมาก อย่างที่เราได้เกริ่นไปในข้างต้น เริ่มต้นกันก่อนที่เทอมินอลท่าเรือเฟอร์รี่โออะราอิ (Oarai Port Ferry Terminal) ในอิบารากิ ทั้งหมดที่เพื่อนๆจะต้องทำ ก็มีเพียงแค่ซื้อตั๋วมา เก็บตั๋วให้ดี และรอออกเดินทาง เท่านี้เอง และจากที่นั่น ก็จะล่องเรือไปด้วยความนุ่มนวลสุดๆ เพื่อนๆจะมีห้องนอนสำหรับนอนพักผ่อน ผ่อนคลายกันได้ตามสบาย และยังมาพร้อมกับร้านอาหาร, ห้องอาบน้ำรวม, และอีกมากมายที่จะช่วยให้เพื่อนๆได้ผ่อนคลายความเครียดกัน และพอเพื่อนๆตื่นขึ้นมา ก็จะมาถึงที่ฮอกไกโดกันแล้วละ! แล้วอะไรบ้างละที่เพื่อนๆต้องห้ามพลาด เมื่อมาเที่ยวที่ฮอกไกโดกันน่ะ? มาดูกันต่อที่ข้างล่างนี้เลย พวกเราได้ไปสัมผัสกัน และมีช่วงเวลาที่สุดมหัศจรรย์กันมาแล้วละ~

บ่อน้ำร้อนโนโบริเบะสึ (Noboribetsu Hot Springs (登別温泉))

ออนเซ็นโนโบริเบะสึ (Noboribetsu Onsen (登別温泉)) เป็นหนึ่งในบรรดารีสอร์ทออนเซ็นที่ดีที่สุด และโด่งดังที่สุดในฮอกไกโดเลยละ ด้วยบ่อน้ำร้อนที่มีอยู่จำนวนมากของโนโบริเบะสึนั้น ทำให้แถบนี้ถูกเรียกกันว่าเป็น จิโกะคุดานิ (Jigokudani) หรือ "หุบเขาแห่งนรก" (Valley of Hell) (หรือ "หุบเขานรก" (Hell Valley) ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนๆไปถามใคร) อยู่ด้านบนของแหล่งรีสอร์ทเท่านั้นเอง โดยโนโบริเบะสึ (Noboribetsu) เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติชิโคะสึ-โทยะ (Shikotsu-Toya National Park) ซึ่งมีความสวยงามระหว่างสองสิ่งที่ตัดกันแบบลงตัวอยู่ ก็คือ เหล่าหินภูเขาไฟ กับ ความสวยงามของทะเลสาบและท้องฟ้าสีน้ำเงิน
  • ♨Noboribetsu Hot Springs (登別温泉)
    Google Maps
    🚙รหัสแผนที่สำหรับรถเช่า: 603 288 425*46
    🚉จากสถานี JR Noboribetsu Station (登別駅) → ใช้เวลานั่งรถบัสต่อ 15 นาที
    💻เว็บไซต์บ่อน้ำร้อนโนโบริเบะสึ (Noboribetsu Hot Springs) (มีภาษาอังกฤษ) 
  • หุบเขานรก (Hell Valley (登別地獄谷; Jigokudani))

    จุโกคุดานิ (Jigokudani (地獄谷)) หรือ "หุบเขาแห่งนรก"/"หุบเขานรก" (Valley of Hell/Hell Valley) เป็นหุบเขาที่ดูน่าตื่นเต้นสุดๆ หุบเขานี้อยู่ข้างบนของออนเซ็นโนโบริเบทสึเท่านั้นเอง ซึ่งเต็มไปด้วยปล่องน้ำพุร้อนเต็มไปหมด, น้ำกำมะถัน และยังมีกิจกรรมที่เกี่ยวกับภูเขาไฟอื่นๆอีกมากมาย โดยหุบเขาแถบนี้ถูกสร้างขึ้นโดยธรรมชาติ จากการระเบิดของภูเขาไฟเมื่อประมาณ 20,000 ปีที่แล้ว ทำให้ตรงนี้กลายเป็นแหล่งบ่อน้ำร้อนหลักของโนโบริเบทสึ แต่เตือนไว้นิดนึงว่า ในช่วงฤดูหนาว ทางที่จะเดินขึ้นไปยังจิโกคุดานินี้ อาจจะไม่สามารถผ่านไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม ตอนที่พวกเราไปกัน ยังไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นที
  • แม่น้ำโอยุนุมะ แช่เท้ากับบ่อน้ำร้อนธรรมชาติ
    River Oyunuma Natural Footbath
    (大湯沼川の天然足湯)

    ใกล้ๆกันกับหุบเขานรก ก็จะพบกับแม่น้ำโอยุนุมะ (Oyunumagawa (大湯沼川)) น้ำของแม่น้ำนี้ก็ยังคงร้อนอยู่ และแม่น้ำนี้ก็ไหลผ่านป่ามา ทำให้เกิดบรรยากาศที่ต่างกันไปกับหุบเขานรกอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว แม่น้ำมีความยาวประมาณ 100 ฟุตนิดๆ และไหลมารวมกันจากแม่น้ำกลายเป็นบ่อน้ำร้อน ส่วนอุณหภูมิของน้ำนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามแต่สภาพอากาศ และที่นี่ก็ยังมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นที่ที่เพอร์เฟคสุดๆสำหรับการแช่เท้า (足湯; ashiyu) ผ่อนคลายกันในธรรมชาติของญี่ปุ่นแท้ๆเลยละ

มาต่อกันด้วย พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Museum (小樽オルゴール))

ถ้าหากเพื่อนๆได้ไปเที่ยวกันที่โอตารุละก็ เพื่อนๆก็ควรจะแวะที่นี่จริงๆนะ ที่ ร้านกล่องดนตรีโอตารุ (Otaru Music Box Store) แต่เดิมที่นี่ถูกสร้างเป็นโกดังเก็บของในยุคของเมจิ และด้วยประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาอย่างยาวนาน ในตอนนี้ที่นี่ได้กลายเป็นที่จัดแสดงกล่องดนตรีต่างๆมากมายตั้งแต่ปี 1912 เลยทีเดียว จริงๆพวกร้านกล่องดนตรี และพิพิธภัณฑ์ ก็มีอยู่ทั่วในประเทศญี่ปุ่น แต่ที่นี่ ที่โอตารุนี้ ว่ากันว่าเป็นแหล่งกล่องดนตรีที่ใหญ่ที่สุดเลยทีเดียว ลองดูที่ความใหญ่ของหอนาฬิกานั่นดูเลยก็ได้!

🎶อาคารหลักของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุ (Main Building of the Otaru Music Box Museum (小樽オルゴール堂))
🏢4-1 Sumiyo-cho, Otaru, Hokkaido
Google Maps
🚙รหัสแผนที่สำหรับรถเช่า: 493 661 522*51
🚉ใช้เวลาเดิน 5 นาที จากสถานี JR Minami Otaru Station (南小樽駅)
⏰เวลาทำการ: 09:00 ~ 18:00 น.
💻เว็บไซต์ Otaru Music Box Museum (ภาษาอังกฤษ) 
  • เมื่อเพื่อนๆเดินเข้ามาข้างใน ก็จะรู้สึกเหมือนกับอยู่ในเทพนิยายกันเลยทีเดียวละ ด้วยแสงสีเหลืองที่ประดับตกแต่งร้าน พร้อมๆกับเพลงที่เข้ากับบรรยากาศร้านสุดๆที่บรรเลงไปตลอด คงจะนึกภาพออกกันเลยใช่ไหมละ~
  • ทั้งตึกนี้ เต็มไปด้วยกล่องดนตรีที่น่าตื่นตาตื่นใจเต็มไปหมด ทั้งที่จัดแสดงเฉยๆ และทั้งที่นำออกมาขาย ทำให้ที่นี่ดูเหมือนกับร้านค้า มากกว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์เลยนะเนี่ย

คลองโอตารุ (Otaru Canal (小樽運河))

สัณลักษณ์ของโอตารุ ถ้าไม่ใช่ฮอกไกโด ก้ต้องนี่เลย คลองโอตารุ (Otaru Canal) ที่นี่กลายเป็นที่ที่ต้องห้ามพลาดของฮอกไดโดไปโดยปริยาย สร้างเสร็จในปี 1923 หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นรับวัฒนธรรมฝั่งตะวันตกเข้ามามากขึ้น โดยคลองนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการเดินเรือที่มีเพิ่มมากขึ้นในฮอกไกโด และตามแนวลำคลองนี้ ก็เต็มไปด้วยตึกอาคารเก่าอิฐแดงตามประวัติศาสตร์ของโอตารุที่สวยงามตั้งอยู่มากมาย และจะสวยมากที่สุดในตอนกลางคืน คือตอนที่โคมไฟแก๊ส สว่างไสวในยามค่ำคืนละ ถ้าหากเพื่อนๆอยากจะมาล่องเรือไปในคลองโอตารุละก็ เพื่อนๆก็จะได้รับบรรยากาศเหมือนกับการนั่งเรือกอนโดลาที่เห็นในภาพยนตร์ของอิตาลีเลยละ

🌉คลองโอตารุ Otaru Canal (小樽運河)
🏢5 Minatomachi, Otaru-shi, Hokkaido
Google Maps
🚙รหัสแผนที่สำหรับรถเช่า: 493 690 414*35
🚉ใช้เวลาเดิน 10 นาทีจากสถานี JR Otaru Station (小樽駅)

Hokkaido Ice Pavilion (アイスパビリオン)

ในกรณีเพื่อนๆบางคนอาจจะทนไม่ไหวกับความหนาวของฮอกไกโดในช่วงฤดูหนาว แต่ก็ยังอยากจะเล่นหิมะอยู่ดี พวกเราขอแนะนำที่นี่เลย Hokkaido Ice Pavilion ที่นี่จะเป็นโลกแห่งน้ำแข็งไปตลอดทั้งปี โดยที่ซุ้มหิมะนั้นจะรักษาอุณหภูมิเอาไว้ที่ -20℃ (-4℉) และเพื่อนๆสามารถเลือกได้ด้วยว่าอยากจะสัมผัสกับประสบการณ์ความหนาวในระดับไหน โดยจะเลือกได้ถึง 5 ระดับเลยทีเดียว! พวกเราได้ไปลองระดับความหนาวที่ผ้าขนหนูแข็ง (frozen towel) มา แต่แบบค้อนกล้วย (banana hammer) ก็ดึงดูดความสนใจจากพวกเราได้เหมือนกัน และยังมีอุณหภูมิที่หนาวไปอีกขั้น โดยเพื่อนๆสามารถมาสัมผัสกับประสบการณ์ความหนาวมากที่สุดได้ถึง -40℃ (-40℉) ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่หนาวเย็นมากที่สุดที่เพื่อนๆจะสามารถมาลองกันได้ที่ประเทศญี่ปุ่น! และถ้าหากเพื่อนๆอยากจะมาทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับฤดูหนาวในฮอกไกโดอีกละก็ ที่นี่ก็เป็นที่ที่เพื่อนๆควรมามากที่สุดเลยละ!
  • ⛄Hokkaido Ice Pavilion (アイスパビリオン)
    🏢40 Sakae-machi, Kamikawa-machi, Kamikawa-ku, Hokkaido
    Google Maps
    🚙รหัสแผนที่สำหรับรถเช่า: 623 630 207*60
    🚉สถานี JR Kamikawa Station (上川駅)
    💻เว็บไซต์ Hokkaido Ice Pavilion (ภาษาญี่ปุ่น) 

น้ำตกชิระฮิเงะ (Shirahige Waterfall (白ひげの滝 ))

  • ที่นี่ตั้งอยู่ที่ระดับ 600 เมตร (1968 ฟุต) เหนือระดับน้ำทะเล อยู่ในเมืองบ่อน้ำพุร้อนอย่างบิเอ น้ำตกนี้มีความสูงทั้งหมด 30 เมตร (98 ฟุต) โดยชื่อของน้ำตกนี้มีความหมายว่า หนวดสีขาว (เขียนว่า ชิโระฮิเงะ แต่อ่านออกเสียงว่า ชิระฮิเงะ) มาจากการที่น้ำไหลลงมาผ่านช่องว่างระหว่างหินทั้งสองฝั่ง ทำให้ดูเหมือนกับหนวดสีขาวๆ และน้ำตกแห่งนี้ก็ยังเป็นน้ำตกหายาว และพิเศษของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย เพราะว่าด้วยน้ำพุร้อนที่อยู่ข้างใต้ก้อนหิน ไหลตกลงมาโดนหินด้านล่าง ทำให้น้ำเกิดการกระทบกัน และมีสีน้ำเงินที่เกิดจากโคบอลต์ขึ้นมาอย่างสวยงาม
  • 🌉น้ำตกชิระฮิเงะ Shirahige Waterfall (白ひげの滝​)
    🏢Shirogane, Biei-cho, Kamikawa-gun, Hokkaido
    Google Maps
    🚙รหัสแผนที่สำหรับรถเช่า: 796 182 575*30
    🚉สถานี JR Biei Station (美瑛駅) - ขึ้นรถบัสจากสถานี

บ่อน้ำสีน้ำเงิน (Blue Pond (青い池))

ถ้าหากเพื่อนๆเดินทางๆไปตามกระแสน้ำของน้ำตกชิระฮิเงะ เพื่อนๆก็จะพบกับบ่อน้ำสีน้ำเงิน (Blue Pond (青い池)) โดยบ่อน้ำนี้เป็นบ่อน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น ห้อมล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 500 เมตร (1640 ฟุต) แต่เดิมนั้นถูกสร้างขึ้นเพื่อป้องกันเมืองบิเอ จากการถูกลาวาไหลมาสร้างความเสียหาย แต่ที่นี่กลายเป็นน้ำสีน้ำเงินสวยงามสุดตรึงตาตรึงใจจากแม่น้ำของบิเอโดยธรรมชาติเอง หลังจากที่น้ำจากน้ำตกต่างๆรอบๆ และน้ำจากบ่อน้ำพุร้อนที่มีอลูมินัมในแม่น้ำบิเอ มาไหลรวมกันกับบ่อน้ำร้อนที่มีกำมะถันจากแม่น้ำอิโอ (Iou River (硫黄川)) น้ำในบ่อนี้จะเห็นเป็นสีน้ำเงินเมื่อมีแสงมาตกกระทบ ดังนั้นที่นี่จึงได้ชื่อว่าเป็น "แม่น้ำสีน้ำเงิน" และในระหว่างฤดูหนาวที่ทั้งหิมะ และน้ำแข็งปกคลุมบ่อน้ำนี้ เมื่อแสงตกกระทบลงมา เพื่อนๆก็จะพบกับวิวที่สวยงามที่สุด ตรึงตาตรึงใจที่สุด จนลืมไม่ได้กันเลยเชียวละ


🌲บ่อน้ำสีน้ำเงิน Blue Pond (青い池)
🏢Shirogane, Biei-cho, Kamikawa-gun, Hokkaido
Google Maps
🚙รหัสแผนที่สำหรับรถเช่า: 349 569 814*88
🚉สถานี JR Biei Station (美瑛駅) - ขึ้นรถบัสจากที่นั่น
🚌ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถบัส Dohoku จากสถานีบิเอ
💻ข้อมูลท่องเที่ยวบิเอ (ภาษาอังกฤษ)

เพลิดเพลินกับการเดินทางไปรอบๆฮอกไกโด

ถ้าไม่คิดถึงเรื่องฤดูกาลแล้วละก็ ฮอกไกโดเนี่ยเป็นที่ที่สวยงามควรค่าแก่การแวะเที่ยวสุดๆเลยนะ แม้ว่าในฤดูหนาวที่นี่จะหนาวมาก แต่ในฤดูร้อนของที่นี่ อากาศก็จะเย็นๆ และทำให้ดูมีชีวิตชีวาเป็นอย่างมากเลยละ แน่นอนว่าที่นี่เป็นที่ที่เหมาะแก่การมาสัมผัสประสบการณ์กับพื้นที่ว่างๆโล่งๆ และธรรมชาติต่างๆ พร้อมๆกับการเพลิดเพลินไปกับอาหารแสนอร่อยอย่างข้าวโพด, ไอศกรีม, แคนตาลูป, มิโสะราเมง และแน่นอนเลยว่าจะพลาดไม่ได้กับอาหารทะเลสดๆ (โดยเฉพาะหอยเม่นทะเล และปูแสนอร่อย) ถ้าหากเพื่อนๆได้มาเที่ยวฮอกไกโดกันสักครั้งแล้ว พวกเรามั่นใจเลยว่า เพื่อนๆจะต้องตกหลุมรักในฮอกไกโดอย่างที่พวกเราก็ตกหลุมรักมาแล้วอย่างแน่นอน~!

ความสุขสำราญในการนั่งเรือเฟอร์รี่มายังฮอกไกโด

 🌞เฟอร์รี่ช่วงเย็น🚢 
・Oarai ➡ Tomakomai: ออกเดินทางเวลา 19:45 น., ถึงจุดหมายปลายทางเวลา 13:30 น. (วันถัดไป)
・Tomakomai ➡ Oarai: ออกเดินทางเวลา 18:45 น., ถึงจุดหมายปลายทางเวลา 14:00 น. (วันถัดไป)

 🌙เฟอร์รี่ช่วงค่ำ🚢 
・Oarai ➡ Tomakomai: ออกเดินทางเวลา 01:45 น., ถึงจุดหมายปลายทางเวลา 19:45 น. 
・Tomakomai ➡ Oarai: ออกเดินทางเวลา 01:30 น., ถึงจุดหมายปลายทางเวลา 19:30 น. 

🚢Ferry Sunflower  (フェリーさんふらわあ)
เทอมินอลผู้โดยสาร: Oarai Port Ferry Terminal
🏢Chuo 2, Oaraimachi Port, Higashiibaraki-gun, Ibaraki
Google Maps
เทอมินอลผู้โดยสาร: Tomakomai West Port Ferry Terminal​
🏢1-2-34 Irifunecho, Tomakomai, Hokkaido
Google Maps
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรือเฟอร์รี่ Shosen Mitsui Ferry Sunflower คลิกที่นี่เลย!



อย่าลืมติดตามข่าวสารและบทความใหม่ๆทุกวันของพวกเราได้ที่ JAPANKURU🐶

หรือเพิ่มพวกเราบน Google+InstagramFacebook และแบ่งปันรูปภาพสไตล์ญี่ปุ่นของคุณกัน 💖🗾
Basic Info
NameShosen Mitsui Ferry (商船三井フェリー)
Websitehttps://www.sunflower.co.jp/en/
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS