เที่ยววัดเซ็นโซจิ เก่าแก่ใจกลางย่านอาซากุสะ

Tokyo Tour วัด 2022.04.06
วัดใหญ่ใจกลางกรุง จุดหมายปลายทางที่คนญี่ปุ่นและต่างชาติพลาดไม่ได้เมื่อมาเยือนโตเกียว สัมผัสกับประวัติศาสตร์อันยาวนาน สถาปัตยกรรม ย่านร้านค้าเก่าแก่ที่ยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้
วัดเซ็นโซจิ

Photo by Sophia

วัดเซ็นโซจิ หรือ คนไทยรู้จักกันในนาม วัดอาซากุสะ ถือเป็นจุดหมายต้นๆสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเมืองโตเกียว มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน ถือเป็นวัดทางพุธที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่ง จุดเด่นและถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปอยู่ที่โคมสีแดงดวงใหญ่หน้าประตูทางเข้าวัด「คามินาริ มง」(雷門) หากเดินต่อเข้ามาด้านในจะพบถนนทอดยาวที่มีร้านค้าเก่าแก่เรียงรายให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับขนมและของฝากต่างๆ ก่อนจะเข้าสู่ความสงบ สามารถไหว้ขอพรกับรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม เซียมซีดูดวง เสริมสิริมงคลให้ทริปท่องเที่ยวของคุณ
ประวัติ วัดเซ็นโซจิ

Photo by Sophia

ดูภายนอกอาจจะดูไม่เก่า แต่วัดเซ็นโซจิ ก่อตั้งมาเกือบหนึ่งพันปี สร้างเสร็จเมื่อปี ค.ศ. 645 ตามตำนานเล่าว่ามีสองพี่น้องออกไปตกปลาที่แม่น้ำซุมิดะ และพบกับรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม จึงเริ่มสร้างวัดขึ้นมาเพื่อเป็นที่ประดิษฐาน ณ บริเวณนั้น

ช่วงสมัยเอโดะ (ปี ค.ศ. 1603-1868) อิเอะยะซุ โทะกุงะวะ (徳川家康) โชกุนคนแรกของสมัยเอะโดะ ได้ให้ความสนใจบำรุงดูแลวัด ทำให้วัดเซนโซจิเริ่มเป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมทั้งอาณาบริเวณรอบวัดก็เปลื่ยนจากพื้นที่ชนบทกลายมาเป็นจุดศูนย์รวมความเจริญ มีการปรับปรุง ก่อสร้างสิ่งต่างๆมากมาย เหตุผลที่ทำให้วัดเซ็นโซจิดูไม่เก่าแก่ เพราะ เมื่อก่อนอาคารวัดเคยถูกไฟไหม้ และ มีการปรับปรุงสร้างใหม่หลายครั้งในตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา ห้องโถงใหญ่ของวัดที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1649 มีอายุยาวนานกว่า 300 ปี แม้จะผ่านเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่แถบคันโตในปี ค.ศ.1923 มาได้ แต่ก็เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้จากการทิ้งระเบิดในปี ค.ศ.1945 ทางวัดปรับปรุงอาคารต่างๆในช่วงปี ค.ศ.1950 โดยคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ และยังสืบสานประเพณีเก่าแก่หลายศตวรรษของวัดเซ็นโซจิอย่างต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน
มา วัดเซ็นโซจิ ต้องห้ามพลาด
คนส่วนใหญ่นิยมเดินเข้าชมวัดจากประตูหลัก「คามินาริ มง」(雷門) ที่มีโคมสีแดงใหญ่ห้อยอยู่ด้านบน โดดเด่น เป็นสัญลักษณ์ของวัด ถือเป็นจุดเช็คอินถ่ายรูปสุดฮิต ทั้งช่วงกลางวัน และ กลางคืน มีทั้งคนญี่ปุ่นเองและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากมาย อย่าพลาดโอกาสในการถ่ายภาพเก็บไว้เป็นความทรงจำในทริปนี้

คามินาริ มง (雷門) แปลได้ว่า "ประตูฟ้าร้อง" เปรียบเสมือนชื่อเล่น แต่ชื่ออย่างเป็นทางการของประตูทางเข้านี้คือ ฟุไรจิน มง (風雷神門) ซึ่งแปลได้ว่า "ประตูแห่งเทพเจ้าสายฟ้าและพายุ" หากสังเกตดีๆข้อความที่เขียนอยู่บนโคมทั้งสองด้านจะไม่เหมือนกัน มีทั้งเขียนว่า คามินาริ มง และ ฟุไรจิน มง !
「ถนน เซ็นโซจิ นากามิเซะ」(浅草寺仲見世通り) ทอดยาวก่อนเข้าวัดถือเป็นอีกจุดช้อปปิ้ง และ จับจ่ายซื้อสินค้าของฝากที่พลาดไม่ได้ เมื่อสมัยก่อนมีร้านค้าขายสินค้าทางศาสนามากมาย แต่ปัจจุบันจะพบกับแผงขายของกระจุกกระจิก ของที่ระลึก รวมทั้งร้านขนมของฝากขึ้นชื่อ เช่น ร้านขาย ดังโงะ ข้าวเกรียบเซมเบ้ มันจูทอด หรือ ปังเมล่อนไส้ครีมอันโด่งดังของอาซากุสะ

Photo by Sophia

ผ่านถนนช้อปปิ้งเข้ามาถึงตัววัดด้านใน จะเห็นพื้นที่ทางเข้าห้องโถงใหญ่ของวัด สามารถต่อแถวเข้าขอพรกับรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิมได้ วัดเซ็นโซจิถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดนิยม มีผู้คนเข้ามากราบไหว้ตลอดทั้งปี แต่วันที่คึกคักที่สุดอีกวันคือ วันขึ้นปีใหม่ ! คล้ายๆของไทย คนญี่ปุ่นก็นิยมไหว้พระขอพรในวันปีใหม่เช่นกัน เรียกกันว่า「ฮัตสึโมเดะ」(初詣)

ภาพข้างบนนี้แสดงให้เห็นถึงฝูงชนที่เข้าแถวรอขอพรไหว้พระหน้าห้องโถงใหญ่ของวัดเซ็นโซจิตอนตีสามในเช้าวันที่ 1 มกราคม

เมื่อต่อคิวไปถึงบริเวณกล่องบริจาคที่ตั้งไว้หน้าวัด ชาวญี่ปุ่นนิยมโยนเหรียญ 5 เยนลงในกล่อง เพราะภาษาญี่ปุ่น 5 เยน (โก-เอน 五円) คล้องเสียงกับคำว่า การขอพรจากเทพเจ้า (โก-เอน ご縁) ตำนานกล่าวว่า หากไหว้ขอพรกับรูปปั้นพระโพธิสัตว์กวนอิม จะนำพาความเจริญรุ่งเรือง เสริมความปลอดภัย ความสำเร็จทางวิชาการ การเรียน การงานต่างๆ สุขภาพ และปัดเป่าภัยพิบัติได้

Photo by Sophia

ทางวัดมี โอ-มา-โม-ริ (เครื่องรางญี่ปุ่น お守り) ขายอยู่บริเวณหน้าวัด สำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้วถือเป็นที่นิยมมาก สามารถซื้อให้ตัวเอง และซื้อไปเป็นของฝากได้ มีทั้งเครื่องรางนำโชคช่วยเรื่องการเรียน การสอบ หลีกเลี่ยงอุบัติเหตุจราจร หรือแม้กระทั่งเครื่องรางความรัก และยังมีจุดเสี่ยงเซียมซีนำโชค แม้แต่คนญี่ปุ่นเองก็นิยมเสี่ยงเซียมซี เวลาไปวัดหรือศาลเจ้าต่างๆ สามารถยอดเหรียญ 100 เยน ลงในกล่องและเริ่มเขย่าเซียมซีได้เลย !

(ในรูปด้านบน คือ สมุดตราประทับโกะชูอิน ไว้สำหรับสะสมตราประทับของวัดต่างๆ)
 
บริเวณใกล้ๆ
หากออกมาบริเวณรอบๆวัด จะพบกับย่านร้านค้าสามารถเดินเลือกซื้อสินค้า ชอปปิ้งอย่างจุใจ พักทานอาหาร หรือเพลิดเพลินกับบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ เดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศแบบญี่ปุ่นๆ ตามตรอก ซอกซอยแคบๆที่ซ่อนตัวอยู่ในย่านที่พลุกพล่านนี้ได้ หากต้องการบรรยากาศหรือซึมซับวัฒนธรรมญี่ปุ่นเข้าไปอีก สามารถเช่าชุดกิโมโนที่ร้านในบริเวณรอบๆวัด ทางร้านมีบริการฝากของ เช่าชุด รวมทั้งทำผมให้เสร็จ

เบื่อที่จะช้อปปิ้งแล้ว ! สามารถเดินออกมาทางด้านตะวันออกของย่านอาซากุสะ (ออกจากวัดมาอยู่ทางด้านซ้าย) จะพบกับแม่น้ำสุมิดะ ที่ขึ้นชื่อแห่งเมืองโตเกียว .. หากวันไหนอากาศดีๆ สามารถนั่งพักผ่อน หรือดูวิวได้อย่างไม่มีเบื่อ ช่วงปลายเดือนมีนาคมและต้นเดือนเมษายน สวนสาธารณะแถวนั้นจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษเนื่องจากต้นไม้ที่ปลูกริมน้ำจะบานสะพรั่งไปด้วยดอกซากุระ ถือเป็นอีกจุดชมซากุระของโตเกียวที่คนนิยม หรือหากต้องการเดินทางไปโตเกียวสกายทรีก็สามารถเดินเท้าไปได้ โดยใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที

ออกมาจากบริเวณอาซากุสะแล้ว ใกล้ๆจะมีอีกย่านร้านค้าที่นิยมเช่นกัน ได้แก่ ย่านอุเอโนะ มีทั้งสวนสัตว์อุเอโนะ สวนสาธารณะ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติโตเกียว รวมทั้งยังมีตลาดอาเมะโยโกะ ให้เดินช้อปปิ้งได้ไม่มีเบื่อ

สามารถนั่งรถไฟใต้ดิน Metro สาย Ginza มาลงที่สถานนี อุเอโนะ ได้ ใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น

Photo by Sophia

วัดเซ็นโซจิ (Senso-ji ,聖観音宗 あさくさかんのん 浅草寺)
2-3-1 Asakusa, Taito-ku, Tokyo 111-0032, Japan
เวลาทำการ : ห้องโถงวัด
เดือน 4 - 9 เปิดตั้งแต่ช่วงเช้า 06:00 - 17:00 โมงเย็น
เดือน 10 - 3 เปิดตั้งแต่ช่วงเช้า 06:30 - 17:00 โมงเย็น
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
Basic Info
Nameวัดเซนโซจิ (Senso-ji ,聖観音宗 あさくさかんのん 浅草寺)
Address2-3-1 Asakusa, Taito-ku, Tokyo 111-0032, Japan
Stationสถานี อาซากุสะ (浅草駅)
Websitehttps://www.senso-ji.jp/
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS