ทริป 2 วัน 1 คืนที่ อิโทอิกาวะ เมืองแห่งหยกในจังหวัดนีงาตะ

Chubu Tour อิโทอิกาวะ 2022.09.27
เมืองเล็กที่ซ่อนตัวอยู่ทามกลางภูเขาติดชาดฝั่งทะเลระหว่างจังหวัดนีงาตะและโทยามะ เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองผลิตอัญมณีแห่งสรวงสวรรค์อย่าง หยก วันนี้เจแปนคุรุพาไปค้างคืน เที่ยวชมอุทยานธรณีโลกที่ได้รับรางวัลยูเนสโก พาขี่จักยานเที่ยวเล่นรอบเมือง ขอพรที่ศาลเจ้ากลางทะเล พร้อมทานอาหารทะเลสดๆขึ้นชื่อของเมืองอย่าง ปูเบนิซุไว ทั้งหมดนี้ในเมืองแห่งหยก อิโทอิกาวะ
พาทัวร์ชมรอบเมือง
อิโทอิกาวะ เมืองที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาสีเขียวชอุ่ม มีชายฝั่งทะเลสีเขียวอมน้ำเงินเปรียบเสมือน หยก อัญมณีแห่งสรวงสวรรค์ในหลายๆด้าน ที่แห่งนี้ยังได้รับรางวัลมรดกโลกจากยูเนสโก ดึงดูดให้ผู้ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งอย่างนักปีนเขา นักตั้งแคมป์ ปิกนิก นักปั่นจักรยาน เดินทางมาเยือนเป็นจำนวนมากในแต่ละปี ทีมงานเจแปนคุรุก็ไม่พลาดที่จะเก็บภาพการไปเยือน อิโทอิกาวะ มาฝากทุกคน !

★ วิธีการเดินทาง

ทีมงานเดินทางจากโตเกียวด้วยรถไฟชินคันเซ็น สายโฮคุริคุ (Hokuriku Shinkansen/北陸新幹線) มาลงที่สถานนี อิโทอิกาวะ (Itoigawa Station/糸魚川駅) ใช้เวลาเพียงสองชั่วโมงนิดๆ หากมาจากโอซาก้าใช้เวลาประมาณสี่ชั่วโมงโดยประมาณ หากมาจากไทยแล้วละก็สามารถใช้ JR Hokuriku pass ได้ราคาเพียง 25,500 เยนเท่านั้น ครอบคลุมจากสนามบินคันไซ จนเข้าตัวเมืองโอซาก้า เกียวโต โกเบ และนาระ รวมทั้งภูมิภาคโฮคุริคุ วิธีการเดินทางในตัวเมืองหลังจากลงจากรถไฟสายหลักแล้ว สามารถเช่าจักรยานและรถยนต์เพื่อเดินทางท่องเที่ยวรอบๆ ทริปนี้เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ ไม่หวือหวา หรือ ช้อปปิ้งเยอะๆตามเมืองใหญ่ หากมาเยือนอิโทอิกาวะแล้วละก็จะได้สัมผัสกับธรรมชาติของญี่ปุ่นอย่างแท้จริง ได้ดูชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองริมทะเล ถือเป็นการเที่ยวญี่ปุ่นอีกแบบที่ไม่ควรพลาด
วันที่ 1 : ปั่นจักรยานชมวิวทะเล และ กินปูเบนิซุไว
ว่ากันว่าชายฝั่งทะเลของที่นี้มีหยกปะปนกับก้อนกรวดบนหาดทรายให้ค้นหากันอย่างสนุก หากโชคดีคุณอาจจะได้หยกติดไม้ติดมือกลับบ้านไปก็ได้ ! บริเวณชายฝั่งตรงถนนคุบิกิ (Kubiki Cycling Road/久比岐自転車道) ถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักปั่นจักรยานชาวญี่ปุ่น เหมาะสำหรับวันอากาศดีๆสามารถปั่นจักรยานรับลมได้อย่างไม่มีเบื่อ

เช่าจักรยานที่สถานี อิโทอิกาวะ และ ลองนั่งรถไฟย้อนยุค KIHA52

หลังจากลงรถไฟชินคันเซนสายโฮคุริคุที่สถานี อิโทอิกาวะ เรียบร้อยแล้ว ภายในสถานีจะมีจุดเช็คอินถ่ายรูปน่ารักๆอย่าง Geo Station GeoPal ที่เป็นทั้งศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวและเป็นที่เก็บรถไฟจำลอง KIHA52 อยู่บริเวณทางออก Alps ชั้น 1 มีทั้งแบบจำลองรถไฟญี่ปุ่นย้อนยุคสุดคลาสสิกอย่าง KIHA52-156 (キハ52-156) ที่อดีตเคยใช้วิ่งบนสายโออิโตะ และ แบบจำลองห้องอาหารหรูบนรถไฟ Twilight Express ที่ใช้วิ่งระหว่างโอซาก้าไปจนถึงซัปโปโร สามารถเข้าไปรับข้อมูลก่อนการเดินทาง และ ยังได้ถ่ายรูปน่ารักๆอีกหลายมุมเลยทีเดียว
ภายในวันแรกของทริปเราได้เช่าจักรยานจากโต๊ะบริการข้อมูลการท่องเที่ยวที่ Geo Station GeoPal ที่มีทั้งจักรยานเสือหมอบ จักรยานไฟฟ้าและ จักรยานไฮบริด ทั้งของเด็กและผู้ใหญ่หลากหลายแบบให้เลือก มีตั้งแต่ราคา 1,000 ถึง 2,000 เยน/ต่อวัน และล่าสุดเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ยังมีจักรยาน E+ ของ Giant รุ่นใหม่ให้บริการอีกด้วย ! วิธีการเช่าเพียงแค่กรอกแบบฟอร์มง่ายๆและแสดงหนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวกับเจ้าหน้าที่เท่านั้นเอง หากต้องการคืนจักรยานก็สามารถนำกลับมาคืนยังจุดเดิมตามเวลาที่กำหนด สามารถดูข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเช่าได้ที่เว็บไซต์สมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดอิโทอิกาวะ หรือ หากไม่มีจักรยานในแบบที่ถูกใจก็ยังมีร้านเช่าใกล้ๆสถานีให้เลือกเพิ่มเติมอีกด้วย

Geo Station Geopal (ジオステーション ジオパル)
1-7-47 Omachi, Itoigawa, Niigata (Itoigawa Station 1F Alps Exit)
Official Page (jp)

ถนนคุบิกิ และ ชายฝั่งทะเลอิโทอิกาวะ

บริเวณชายฝั่งของอิโทอิกาวะหรือที่รู้จักกันในชื่อ The Jade Coast ที่ว่ากันว่ามีก้อนหินหยกปะปนอยู่ตามชายหาด หินเหล่านี้มาจากภูเขาอิโทอิกาวะ ไหล่ลงมาตามแม่น้ำและลงสู่มหาสมุทรก่อนที่จะซัดเข้าชายหาดกลายเป็นหินหยกในที่สุด เมื่อนานมาแล้วมีการค้นพบหยกล้ำค่ามูลค่ามากกว่าล้านเยนทำให้ชายหาดของอิโทอิกาวะมีชื่อเสียงขึ้นมาในทันทีทันใด ปัจจุบันบริเวณหาดนี้มีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยออกมาพักผ่อนเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานเสมือนเป็นจุดพักร้อนประจำเมือง
ถนนสายปั่น คุบิกิ ไซเคิลลิ่ง โรด (The Kubiki Cycling Road) เป็นเส้นทางปั่นจักรยานที่สร้างขึ้นบนทางรถไฟโฮคุริคุสายเก่าเทียบเคียงไปกับทางหลวงหมายเลข 8 ตามชายฝั่งทะเลยาวกว่า 32 กิโลเมตรจากเมืองอิโทอิกาวะขึ้นไปจนถึงเมืองโจเอตสึ ตลอดคอร์สการปั่นจักรยานสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์ทะเลสุดลูกหูลูกตา รับลมเย็นๆ และยังมีจุดแวะพักถ่ายรูปสวยๆหลายจุดอย่างเช่น ศาลเจ้ากลางทะเล หินลูกเจี๊ยบหรือหินทรงไก่ สวนสาธารณะทานิฮามะ จุดพักรถที่ขายอาหารทะเลสดๆ หรือจะแวะเลี้ยวเข้าออนเซ็นบนทางหลวงหมายเลข 454 ก็สามารถทำได้ ตลอดทางปั่นคุบิกิ ไซเคิลลิ่ง โรด มีอุโมงค์อิฐแดงมากกว่า 11 จุดให้ได้ปั่นลอดผ่านสลับกับวิวท้องทะเลสีฟ้าสดใสถือเป็นการเดินทางที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยทีเดียว

คุบิกิ ไซเคิลลิ่ง โรด (Kubiki Cycling Road Itoigawa Starting Point , 久比岐自行車道 糸魚川側スタート)
Nakashuku, Itoigawa, Niigata
Official Page (en)

แวะเที่ยวผาหิน เบนเทน-อิวะ

ผาหินเบนเทน-อิวะ อยู่ระหว่างทางปั่นจักรยานคุบิกิ ไซเคิลลิ่ง โรด ที่ถือเป็นจุดท่องเที่ยวประจำอิโทอิกาวะ เบนเทน-อิวะเกิดจากการปะทุของภูเขาไฟใต้น้ำลักษณะเป็นเกาะหินขรุขระที่โผล่ขึ้นมาจากทะเล และมีสะพานสีแดงเชื่อมเกาะกับแผ่นดินใหญ่ เหมือนมีเกาะเล็กๆตั้งอยู่กลางทะเล ภายในเกาะมีท่าเรือประมงโนอุ (Nou) ศาลเจ้าอิทสึคุชิมะที่คอยปกป้องท้องทะเล ประภาคารที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพาวเวอร์สปอตด้านความรัก และบริเวณนี้ยังถือเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีโลกที่ได้รับรางวัลยูเนสโกอย่าง UNESCO Global Geopark
ในครั้งนี้ทางทีมงานเจแปนคุรุมาเยือนในวันที่อากาศสดใส ได้เห็นครอบครัวชาวญี่ปุ่นออกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานบริเวณชายหาด และช่วงเย็นๆพระอาทิตย์ตกดินบรรยากาศสุดโรแมนติกยังมีคู่รักหลายคู่อยู่แถวบริเวณประภาคารอีกด้วย นอกจากนี้บริเวณเบนเทน-อิวะในช่วงฤดูร้อนของทุกๆปียังเป็นสถานที่สำหรับจัดงานดอกไม้ไฟอย่างงาน Nou Seaside Fireworks Festival อีกด้วย
ผาหิน เบนเทน-อิวะ (Benten-iwa Rock Geosite , 弁天岩ジオサイト)
Nou, Itoigawa, Niigata
Official Page (en)

เยือนจุดพักรถ มารีน ดรีม โนอุ และ แวะทานปูเบนิซุไวมื้ออร่อย

จากผาหินเบนเทน-อิวะหากปั่นจักรยานขึ้นไปทางเหนืออีกประมาณ 1.4 กิโลเมตรจะพบกับจุดพักรถ มารีน ดรีม โนอุ (Marine Dream Nou) ที่มีทั้งนักปั่นและนักท่องเที่ยวที่เดินทางโดยรถยนต์เข้ามาแวะพักเป็นจำนวนมาก บริเวณจุดพักรถนี้ตั้งอยู่ระหว่างท่าเรือประมงหลักของอิโทอิกาวะ 2 แห่งมีอาหารทะเลสดๆวางขายโดยเฉพาะปูที่เป็นของขึ้นชื่อของเมือง หากมาเยือนแล้วละก็สามารถหาซื้อปูสดๆได้บริเวณ คานิยะ โยโกโจ (Kaniya Yokocho , カニや横丁) หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า "ตรอกปู" มีปูหลากหลายขนาดให้ได้เลือกกันอย่างจุใจ หากใครต้องการทานสดๆทางร้านก็มีอุปกรณ์การแกะพร้อมให้บริการ สามารถซื้อและนั่งทานที่โต๊ะบริเวณหน้าร้านได้เลย
ที่ตลาดนี้มีทั้งปูเบนิซุไวและปูหิมะแดงที่จริงๆแล้วสามารถจับได้ในทะเลลึกตลอดปี แต่ตามกฏการประมงญี่ปุ่นปูหิมะแดงจะมีฤดูห้ามจับในช่วงเดือนมกราคม และ กุมภาพันธ์เป็นเวลาสองเดือน พิเศษสุดๆในช่วงฤดูร้อนก็อาจจะมี ปูบุฟเฟต์ หรือกิจกรรมอื่นๆให้ได้เข้าร่วมอีกด้วย นอกจากปูแล้วที่นี่ยังมีอาหารทะเลอร่อยๆอีกมากมายรอทุกคนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นหอยหรือทะเลปิ้งย่างหลากหลายชนิด หากมองไปยังร้านอาหารที่เรียงรายอยู่ในบริเวณก็จะพบกับร้านที่ขายข้าวปั้นหน้าอาหารทะเลสดๆ ซีฟู๊ดราเมง ของทานเล่นจากทะเล รวมทั้งข้าวหน้าทะเลสดชามโต(ไคเซ็นด้ง) พร้อมทั้งของฝากอีกมากมายให้ได้เลือกซื้อกลับบ้าน
หลังจากทางอาหารเสร็จทางเจแปนคุรุทีมก็ได้เดินเล่นบริเวณรอบๆและพบกับร้านที่น่าสนใจอย่าง โนอุซุอิ (Nousui) ที่เป็นร้านขายสินค้าท้องถิ่น โดยเป็นสินค้าที่เด็กนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายในท้องถิ่นกับผู้ผลิตในชุมชนรวมกันพัฒนาและนำมาวางขาย มีตั้งแต่แกงกะหรี่ไปจนถึงน้ำอัดลม และมีสินค้าขายดีสุดๆอย่าง น้ำปลาแซลมอน (Saigo-no-itteki , 最後の一滴) ที่มีคอนเซ็ปต์ชื่อผลิตภัณฑ์เก๋ๆแปลได้ว่า หยดสุดท้าย นอกจากนี้ยังมีไอศกรีมนมสดจากฟาร์มในท้องถิ่นราดด้วยน้ำเชื่อมคาราเมลน้ำปลาแซลมอนให้ได้ลองชิมอีกด้วย ! ถือว่าเป็นของหวานที่น่ามาลองหากได้มาเยือนจุดพักรถแห่งนี้

ที่ มารีน ดรีม โนอุ ก็มีสถานีบริการเช่าจักรยานเช่นกัน (จักรยานที่เช่าที่สถานีอิโทอิกาวะไม่สามารถทิ้งไว้ที่นี่ได้ ต้องนำไปคืนที่สถานนีเดิม) หากระหว่างทางการปั่นจักรยานมีปัญหาก็สามารถนำมาเช็ค และ ซ่อมได้ที่สถานีบริการตรงจุดนี้

มารีน ดรีม โนอุ (Marine Dream Nou , 道の駅「マリンドリーム能生」
3596-2 Noukodomari, Itoigawa, Niigata
Official Website (en)

ชมวิวโค้งผาโอยาชิราสุ และ ลอดอุโมงค์อิฐแดง

ครึ่งทางแรกของคุบิกิ ไซเคิลลิ่ง โรด มีจุดให้แวะพักมากมายทั้งผาหินเบนเทน-อิวะ และ จุดพักรถมารีน ดรีม โนอุ หากเดินทางย้อนกลับไปยังอิโทอิกาวะทางตะวันตกแล้วละก็จะพบกับหน้าผาสูงชันริมทะเลที่ได้ชื่อว่าเป็น โค้งอันตราย (The Most Dangerous Crossing Under Heaven , 天下の険) หรือเป็นจุดที่เชื่อกันว่าเป็นจุดรอยแยกของเกาะญี่ปุ่นกับทวีปเอเชียเมื่อ 20 ล้านปีก่อน พื้นที่โอยาชิราสุถือเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานธรณีโลกอิโทอิกาวะที่ได้รับรางวัลยูเนสโก (Itoigawa UNESCO Global Geopark) ในปี 2009 ที่ผ่านมา

ตลอดชายฝั่งบริเวณโอยาชิราสุถือเป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่สมัยโบราณ ย้อนกลับไปในสมัยเอโดะของญี่ปุ่นมีผู้คนใช้สัญจรไปกลับจากเมืองหลวง และว่ากันว่าชาวบ้านที่หมู่บ้านท้องถิ่นได้สร้างกำแพงกั้นน้ำทะเลเพื่อกันอันตรายจากคลื่นสูง เลยได้ชื่อว่า โอยาชิราสุ (Oyashirazu , 親不知) ที่เปรียบเสมือนกับการเดินทางผ่านบริเวณนี้ที่แม้แต่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่รู้จักมักคุ้นกับเส้นทางนั้นเอง
เมื่อในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาด้วยเทคโนโลยีต่างๆที่ทันสมัยขึ้นทำให้มีการสร้างถนนและทางหลวงที่รองรับหน้าดินบริเวณโอยาชิราสุให้ผู้คนสัญจรเดินทางกันอย่างปลอดภัย ได้มีการสร้างทางหลวงหมายเลข 8 ขึ้นสำหรับรถยนต์และยังมีการสร้างรางรถไฟสายโฮคุริคุเคียงคู่กันไปอีกด้วย บริเวณผาโค้งโอยาชิราสุมีทั้งช่วงถนนปกติธรรมดาที่มองเห็นวิวทิวทัศน์และยังมีช่วงที่เป็นอุโมงค์อิฐสีแดงเก่าที่ถูกสร้างไว้ตั้งแต่อดีตสลับกันไปมาตามทางยาวกว่าสิบกิโลเมตรก่อนจะลงไปถึงจังหวัดโทยามะทางด้านตะวันตกของจังหวัดนีงาตะ
ปั่นจักรยานออกมาจะพบกับอุโมงค์อิฐแดง Old Hokuriku Railroad ที่มีบันไดเล็กๆนำไปสู่ชายหาดลับตั้งอยู่ระหว่างหน้าผาจุดเริ่มต้นของเส้นทางเดินป่า ซึกามิ ชินโด (Tsugami Shindo) ที่มุ่งสู่เทือกเขาแอลป์ตอนเหนือของญี่ปุ่นที่มีความสูง 3,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลจนถูกขนานนามว่า The roof of Japan นั้นเอง

โอยาชิราสุ คอมมูนิตี้ โร้ด (Oyashirazu Community Road , 親不知コミュニティロード)
Ichiburi, Itoigawa, Niigata
Official Page (en)

★ แนะนำที่พักพิเศษระหว่างทางอย่าง Sasakura Onsen Ryuunso

ในทริปนี้ทางเจแปนคุรุทีมเลือกที่จะพักค้างคืนกันที่ Sasakura Onsen Ryuunso ที่ตั้งอยู่ลึกเข้าไปบนเทือกเขาอิโทอิกาวะ ใกล้กับแนวป่าด้านบนเหมาะสำหรับการเดินสำรวจในแพลนวันพรุ่งนี้ ที่ซาซากุระ ออนเซ็น ริวอันโซ เป็นออนเซ็นเก่าแก่ที่สุดของอิโทอิกาวะ มีน้ำพุร้อนจากธรรมชาติที่มีแร่โซเดียมไบคาร์บอเนตที่ดีต่อผิวถูกขุดขึ้นมานานมากกว่า 300 ปี ออนเซ็นหลายแห่งบริเวณนี้ได้เปิดให้ผู้คนมาใช้บริการกันตั้งแต่ช่วงปี 1940 หากใครต้องการแช่ออนเซ็นแล้วบริเวณนี้ยังมีบ่อออนเซ็นขนาดใหญ่อย่าง ริวอัน โนะ ยู (Ryuun-no-yu) ที่มองเห็นวิวภูเขา มีบรรยากาศเงียบสงบพร้อมได้สูดอากาศบริสุทธิ์ถือเป็นออนเซ็นยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นที่มองหาสถานที่พักผ่อนทามกลางบรรยากาศอันเงียบสงบ
ซาซากุระ ออนเซ็น ริวอันโซมีห้องพักแบบเรียวกังสไตล์ญี่ปุ่นปูด้วยเสื่อทาทามิให้บริการ แต่มีห้องแบบตะวันตกอีกไม่กี่ห้องไว้คอยรองรับแขกผู้มาเยือน หากใครต้องการสัมผัสประสบการณ์การพักผ่อนสไตล์เรียวกังญี่ปุ่นแบบเต็มๆแล้วละก็มาที่นี่จะไม่ผิดหวังกลับไปอย่างแน่นอน อาหารเช้าและอาหารเย็นของที่เรียวกังถูกจัดมาอย่างปราณีตงดงาม และ ใช้วัตถุดิบท้องถิ่นตามฤดูกาลให้ความสดชื่นและยังเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ซาซากุระ ออนเซ็น ริวอันโซ (Sasakura Onsen Ryuunso , 笹倉溫泉 龍雲莊)
5804 Odaira, Itoigawa, Niigata
Check-in/Check-out:15:00~ / ~10:00
Phone: 025-559-2211 (available 9:00 - 21:00)
Online Reservations | Official Website (jp)
วันที่ 2 : สำรวจอุทยานธรณีโลกบนผืนป่าเขียวขจี The UNESCO Global Geopark
หลังจากสนุกกับการปั่นจักรยานไปตามเส้นทางริมทะเลในช่วงวันแรก วันนี้ทางทีมเจแปนคุรุเลือกที่จะเดินลึกเข้าไปในป่าไปชมอุทยานธรณีโลก บ่อน้ำสีเขียวหยก และ พาชมแคมป์ปิ้งกราวด์ขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่บนเทือกเขา

เดินเล่นทะเลสาบ ทากานามิ โนะ อิเคะ & เมียวโจ แคมป์กราวด์

สูงขึ้นไปจากระดับน้ำทะเล 1,188 เมตรจะพบกับเทือกเขาเมียวโจที่เคยเป็นแนวปะการังเมื่อ 300 ล้านปีก่อนหน้าก่อนการเกิดเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก กำแพงหินแข็งกระด้างมีร่องรอยของฟอสซิลที่ยังคงเหลือจากอดีตให้ได้เห็น และถัดลงไปบนที่ราบสูงเหนือระดับน้ำทะเลประมาณ 540 เมตร จะพบกับทะเลสาบ ทากานามิ โนะ อิเคะ อันเงียบสงบตั้งเด่นอยู่กลางป่า มีพืชพันธุ์นานาชนิดรายล้อมและพลัดกันผลิใบแตกต่างกันตามช่วงฤดูกาล ตกกลางคืนสามารถมองเห็นหมู่ดาวสะท้อนบนพื้นน้ำ ถือเป็นความงามที่หาเทียบไม่ได้เลยทีเดียว
รอบๆทะเลสาบ ทากานามิ โนะ อิเคะ ถือเป็นจุดตั้งแคมป์ยอดนิยม และบริเวณใกล้เคียงยังมีสนามกอล์ฟ ร้านอาหารและร้านค้าอีกเล็กน้อยค่อยเปิดให้บริการ มีจุดบริการเช่าเรือพายและอุปกรณ์ตกปลาขาย ไม่ว่าคุณจะพักค้างคืนหรือมาเยือนแบบเช้าเย็นกลับก็สามารถเพลินเพลิดกับธรรมชาติ เดินเล่นรอบๆทะเลสาบได้อย่างไม่มีเบื่อ
ทากานามิ โนะ อิเคะ แคมป์กราวด์ (高浪の池キャンプ場)
19336 Kotaki, Itoigawa, Niigata
Hours: 9:00 - 16:00
Closed : late November ~ late April/early May
Official Page (jp)

พักเล่นน้ำแช่เท้ากันที่ช่องแคบ โคทากิกาวะ เจด

ด้านล่างของเทือกเขาเมียวโจที่มีแม่น้ำโคทากิและแม่น้ำโอมิกาวะไหลผ่านจะพบกับช่องแคบที่มีลำธารน้ำใส มีหินกรวดหยาบขนาดใหญ่ที่ถือเป็นแหล่งผลิตหยกแห่งแรกในญี่ปุ่นและว่ากันว่าอาจจะเป็นแห่งแรกของโลก บริเวณนี้เป็นอนุสรณ์สถานทางธรรมชาติของญี่ปุ่นที่ได้รับการรับรองและยอมรับอย่างเป็นทางการจาก UNESCO อีกด้วย
ธารน้ำเย็นของแม่น้ำโคทากิหากมองดีๆแล้วจะพบกับแร่หินหยกที่สวยงามส่องประกายท่ามกลางแสงแดด ผู้มาเยือนสามารถชื่นชมความสวยงามได้ใกล้ๆ สามารถหยิบจับแร่หินได้ตามปกติ แต่ไม่อนุญาตให้นำกลับไปเป็นของตนโดยเด็ดขาด ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการปกป้องและดูแลรักษาสถานที่ทางธรรมชาติมากๆเพื่อที่จะได้ส่งต่อความงามนี้ให้กับคนรุ่นหลังๆได้มีโอกาสชื่นชมต่อไปในอนาคต

ช่องแคบ โคทากิกาวะ เจด (Kotakigawa Jade Gorge , 小滝川ヒスイ峡)
Kotaki, Itoigawa, Niigata
Official Page (en)

เดินชมอุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ ฟรอสซ่า แมกนา ปาร์ค

อุทยาน ฟรอสซ่า แมกนา ปาร์ค (Fossa Magna Park) สร้างขึ้นในปี 1991 ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่สำคัญและใหญ่เป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น หากได้เดินลงบันไดไปตรงกลางอุทยานแล้วจะพบกับเส้นแบ่งซ้าย-ขวา ตามป้ายแจ้งว่าเป็นเส้นแบ่งทางภูมิศาสตร์ที่แยกฝั่งตะวันออกและตะวันตกของญี่ปุ่น และยังเป็นจุดแบ่งขอบเขตระหว่างแผ่นเปลือกโลกในอเมริกาเหนือและเอเชียอีกด้วย
เพื่อช่วยให้ผู้มาเยือนเข้าใจและได้เรียนรู้อย่างสนุกเกี่ยวกับภูมิศาสตร์ของอุทยานแห่งนี้ ตามทางจะพบกับแผ่นป้ายที่มีคำอธิบายพร้อมรูปภาพประกอบการก่อตัวทางธรณีวิทยาอย่างง่ายๆ จึงมักพบเห็นนักเรียนมาทัศนศึกษาและเหล่าครอบครัวที่พาเด็กๆมาเที่ยวที่อุทยานแห่งนี้กันประปราย
อุทยาน ฟรอสซ่า แมกนา ปาร์ค (Fossa Magna Park , フォッサマグナパーク)
2482 Negoya, Itoigawa, Niigata
Hours: 24/7
Closed: closed for winter
Official Page (en)

เข้าชมพิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ

นอกจากอุทยานด้านนอกแล้วที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์ให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมอีกด้วย พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ ฟรอสซ่า แมกนา ปาร์ค ตั้งอยู่ที่สวน มิยามะ ปาร์ค มีข้อมูลทุกประเภทและทุกรูปแบบเกี่ยวกับลักษณะทางธรณีวิทยาพร้อมให้คุณได้เรียนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในและเหนือเปลือกโลก และประวัติความเป็นมาของสถานที่แห่งนี้ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเพราะมีทั้ง ป้าย วิดีโอ แอนิเมชั่น รวมทั้งชิ้นส่วนทางธรณีวิทยาของจริงที่นำมาจัดแสดงให้ได้ชมกัน
หากใครหลงไหลในธรณีวิทยาหรือเป็นนักสะสมหินตัวยงแล้วละก็ที่นี่ยังมีคอลเล็กชั่นตัวอย่างหินที่มีเอกลักษณ์พิเศษๆตั้งแต่แร่หินหยกใหญ่มหึมาไปจนถึงคอลเล็กชั่นหินจากทั่วโลก นอกจากนี้หากเดินเล่นบนชายหาดแล้วไปพบกับหินหยกเข้าก็สามารถนำมาที่พิพิธภัณฑ์นี้เพื่อตรวจสอบได้ฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

หากใครอยากจะลองสวมบทเป็นนักธรณีวิทยาแล้วละก็ที่นี่ยังมีอุปกรณ์เครื่องมือขุดให้เช่าเพื่อให้คุณได้ออกสำรวจกำแพงหินฟอสซิลใกล้ๆกับพิพิธภัณฑ์ อาจจะพบกับหินแปลกๆหรือค้นพบฟอสซิลใหม่ๆก็เป็นได้ !
พิพิธภัณฑ์อุทยานประวัติศาสตร์แห่งชาติ ฟรอสซ่า แมกนา ปาร์ค (Fossa Magna Museum , フォッサマグナミュージアム)
1313 Ichinomiya, Itoigawa, Niigata
Hours: 9:00 - 17:00 (last entry: 16:30)
Closed: days following public holidays, New Year's holidays (12/28 ~ 1/4),
also Mondays in Dec ~ Feb *Please check the official website for any other temporary closures.
Admission: 500 yen (free for high school students and younger)
Official Website (en)

ปิดท้ายด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ทานิมุระ & สวนเกียวกุซุอิเอ็น

ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะทานิมุระแห่งนี้ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แสดงงานสถาปัตยกรรมที่แปลกตาแตกต่างจากที่อื่นเพราะมีชิ้นงานแสดงโชว์ทั้งพิพิธภัณฑ์เพียง 10 ชิ้นเท่านั้น โดยชิ้นงานปั้นพระพุธรูปทั้งหมดออกแบบโดยคุณ มุราโนะ โทโก หากมองจากด้านนอกอาคารของพิพิธภัณฑ์มีหน้าตาคล้ายกับซากปรักหักบนทะเลทรายทำให้ผู้มาเยืยมชมรู้สึกเหมือนได้เดินเข้าไปในถ้ำหินขนาดใหญ่ ถึงแม้ว่างานปั้นพระพุทธจะมีขนาดเล็ก แต่ส่วนแสดงโชว์แต่ละองค์พระก็ถูกจัดวางอย่างมีศิลปะ มีแสดงไฟสาดอย่างสวยงามหากมาช่วงกลางวันก็จะมีแสงแดดจากภายนอกสาดส่องเข้ามาตามโถงทางเดินเปลี่ยนทิศทางไปตามฤดูกาลและตำแหน่งของดวงอาทิตย์ในเวลานั้นๆ
รอบๆอาคารพิพิธภัณฑ์ยังมีสวนไม้ประดับที่ออกแบบโดยอดีตอธิการบดีของมหาวิทยาลัยศิลปะโอซาก้าอย่างคุณ นากาเนะ คินซาคุ และมีร้านน้ำชาที่มีกระจกใสมองเห็นสวนสวยด้านนอก ด้านในประดับตกแต่งด้วยโต๊ะหยกแผ่นใหญ่หรูหราอลังการสะท้อนวิวสวนสีเขียว สามารถแวะนั่งพักดื่มกาแฟหรือน้ำชาได้อย่างสบายๆก่อนเดินทางกลับ
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ ทานิมุระ & สวนเกียวกุซุอิเอ็น (Tanimura Art Museum & Gyokusuien Gardens , 谷村美術館・玉翠園)
2-1-13 Kyogamine, Itoigawa, Niigata
Hours: 9:00 - 16:30 (last entry 16:00)
Closed: days following public holidays, New Year's holidays (12/29 ~ 1/3),
also Tuesdays in Dec ~ mid-March
Official Website (jp)
อิโทอิกาวะ
จบไปแล้วกับ 2 วัน 1 คืนที่เมืองอิโทอิกาวะในจังหวัดนีงาตะ เจแปนคุรุได้พาเที่ยวลัดเลาะปั่นจักรยานไปตามชายหาด ขึ้นเขาพักออนเซ็นแช่น้ำร้อนทามกลางธรรมชาติ มีทั้งทะเลสีฟ้า ท้องฟ้าสีคราม ภูเขาสีเขียว และน้ำทะเลใส ไม่น่าแปลกใจเลยที่อิโทอิกาวะแห่งนี้จะเป็นพื้นที่ทางประวัติศาสตร์ที่อยู่เคียงคู่กับประเทศญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน

ติดตามเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง Facebook และ Twitter
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS