คู่มือเที่ยวศาลเจ้าในโตเกียว | Meiji Jingu Shrine

Tokyo Tour วัด 2023.02.27
เมจิ จินกุ หรือ ศาลเจ้าเมจิ หนึ่งศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และ มีคนเข้ากราบไหว้เป็นอันดับต้นๆของโตเกียวตั้งอยู่ใจกลางย่าน ฮาราจุกุ ที่พลุกพล่าน แต่บรรยากาศด้านในบริเวณศาลเจ้ากลับเงียบสงบราวกับอยู่อีกโลก
เข้าสู่ศาลเจ้าเมจิ
โตเกียวถือเป็นเมืองที่มีตึกสูงรายล้อม มีถนนที่ผู้คนพลุกพล่าน ตึกระฟ้าที่ส่องแสงไฟระยิบระยับในช่วงกลางคืน ดังนั้นไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยที่ศาลเจ้าเมจิจะเป็นสถานที่มาเยือนยอดนิยมของทั้งชาวเมืองเองและนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ด้วยความเงียบสงบและบรรยากาศปลอดโปร่ง ศาลเจ้าแห่งนี้ถูกสร้างมาตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1900 เพื่อเป็นเกียรติและบูชาดวงวิญญาณของจักรพรรดิเมจิ และ พระมเหสีโชเก็นผู้ล่วงลับ แม้ว่าย่านฮาราจุกุ-ชิบุยะนี่จะไม่ใช่ย่านที่พลุกพล่านเหมือนปัจจุบัน แต่บริเวณรอบๆของศาลเจ้านั้นก็เรียกได้ว่าไม่กันดาล ที่แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นจากความช่วยเหลือส่งตรงมาจากทุกจังหวัดในญี่ปุ่น รวมถึงใช้อาสาสมัครรุ่นเยาว์กว่า 110,000 คนมาปลูกต้นไม้ 120,000 ต้น ตลอดศตวรรษที่ผ่านมาต้นไม้ในป่ากลางเมืองแห่งนี้ได้เติบโตสูงขึ้นสร้างร่มเงาและถือเป็นเกราะป้องกันเสียงอึกทึกและฝูงชนจากภายนอกได้ดีทีเดียว
เมื่อเข้าสู่ทางเข้าหน้าศาลเจ้าด้วยบรรยากาศไม่ธรรมดา มีโทริอิ (鳥居) ซุ้มประตูขนาดใหญ่รอต้อนรับอยู่ด้านหน้า ตามความเชื่อคนญี่ปุ่นว่าโทริอิเป็นเขตแดนระหว่างโลกของเรากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้า เมื่อลอดใต้ประตูเข้าไปในเขตดินแดนของเทพเจ้าแล้วไม่แปลกใจที่จะเห็นคนญี่ปุ่นโค้งคำนับเมื่อเข้าหรือออกผ่านซุ้มประตูโทริอิเพื่อเป็นการแสดงความเคารพ
นอกพื้นที่สีเขียว ร่มเย็น บริเวณศาลเจ้าถัดออกไปจะพบกับตึกระฟ้าสูงใหญ่ใกล้ๆกัน
ภายในศาลเจ้า มีการกล่าวกันว่าดวงวิญญาณของจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็นสถิตอยู่ภายในต้นไม้ที่อาสาสมัครนำมาปลูกทุกต้นตั้งแต่ศตวรรษที่ผ่านมา ต้นไม้ใหญ่คอยบังแดดและฝนให้ผู้มาเยี่ยมเยียน นอกจากจะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว บริเวณศาลเจ้ายังเป็นพื้นที่ที่มีพืชพันธ์ุและสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ และยังเป็นที่หลบภัยของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หลายชนิดอีกด้วย
หากเดินเข้าไปในบริเวณศาลเจ้าซักพักจะพบกับถังเหล้าสาเกเรียงรายอยู่เต็มแถบ ถังเหล้าสาเกเหล่านี้พบได้ในวัดและศาลเจ้าของชินโตหลายแห่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างเหล้าสาเกกับศาสนาพื้นเมืองของญี่ปุ่นที่มีมาช้านาน โบราญคนญี่ปุ่นเรียกสาเกว่า "มิกิ" (神酒) ซึ่งแปลได้ว่า "แอลกอฮอล์แห่งเทพเจ้า" สาเกจึงเป็นส่วนหนึ่งของพิธีกรรมและงานเฉลิมฉลองของชินโตมาช้านาน ที่ศาลเจ้าเมจิเรียกเหล่าถังสาเกเรียงรายนี่ว่า "คาซาริดารุ" (飾り樽) ที่แปลว่าถังตกแต่งนั้นเอง
ถังไวน์องุ่นสไตล์ยุโรปที่หาดูได้ยากในศาลเจ้าชินโต !

สมัยเมจิเมื่อจักรพรรดิเมจิปกครองญี่ปุ่นถือเป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น ยุคซามุไรและการปิดประเทศได้ผ่านพ้นไปแล้ว ในยุคเมจินี้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมและรับวัฒนธรรมจากต่างประเทศ บริเวณถังไวน์หลายสิบใบในศาลเจ้าเมจินี้มีการสลักบทกวีที่พูดถึงการเปลื่ยนแปลงบ้านเมืองและเปลื่ยนแปลงประเทศในระดับสากลเพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิ หากใครสนใจก็สามารถเดินดูกันได้
ศาลาการเปรียญของศาลเจ้า
เมจิ จินกุ หรือ ศาลเจ้าเมจิ ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 20 ตั้งแต่ช่วงแรกจนปัจจุบันไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ศาลเจ้าญี่ปุ่นหรือวัดหลายแห่งมีการก่อสร้าง หรือ ปรับปรุงขึ้นใหม่ในพื้นที่เดิม สำหรับศาลเจ้าเมจินี้มีหลักฐานการสร้างบริเวณห้องโถงขึ้นมาใหม่ในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 หลังจากได้รับความเสียหายจากสงครามโลกครั้งที่สอง อาคารที่สร้างใหม่นี้ไม่เหมือนกับของดั้งเดิมทุกประการ แต่ยังคงสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้บางส่วน
ก่อนเข้าสู่บริเวณด้านในจะเห็นคนญี่ปุ่น และ นักท่องเที่ยวแวะที่บริเวณ โชซูยะหรือเทมิซึยะ (手水舎) บ่อน้ำสำหรับชำระล้างก่อนเข้าศาลเจ้า เป็นประเพณีสืบทอดกันมาว่าก่อนเข้าด้านในผู้มาเยือนจะชำระร่างกายให้สะอาดก่อนสวดมนต์ขอพรต่อเทพเจ้า แต่ในช่วงโควิด19ที่ผ่านมา โชซูยะหลายแห่งจะปิดไม่อนุญาตให้ใช้ตามมาตรการความปลอดภัยในการป้องกันเชื้อโลก

หากต้องการใช้โชซุยะแล้วละก็มีพิธีการขั้นตอนง่ายๆดังนี้เลย ใช้ทัพพีถือด้วยมือขวาแล้วเติมจากน้ำที่ไหลจากน้ำพุ เทน้ำเล็กน้อยที่มือซ้าย สลับมือเพื่อเทน้ำเล็กน้อยที่มือขวา จากนั้นเลื่อนกระบวยกลับไปที่มือขวา เทน้ำเล็กน้อยใส่มือซ้ายที่ถือถ้วย จากนั้นยกมือขึ้นปิดปากเพื่อ "บ้วน" เบาๆ ก่อนจะพ่นน้ำลงพื้นอย่างระมัดระวัง สุดท้าย ให้ปล่อยให้น้ำที่ค้างอยู่ในกระบวยไหลลงที่ด้ามจับเพื่อล้างน้ำออกสำหรับคนถัดไป และนำกลับไปวางไว้ที่เดิม (บางคนไม่สะดวกบ้วนน้ำก็สามารถจบที่ขั้นตอนการมือ และล้างกระบวยได้เลยในตอนจบ)

หากใครจำไม่ได้แล้วละก็ สังเกตุคนญี่ปุ่นข้างๆแล้วทำตาม หรือ มองหาป้ายแนะนำวิธีการแถวๆบริเวณโชซุยะได้เลย
ถึงบริเวณศาลเจ้าด้านในเป็นที่เรียบร้อยแล้ว บริเวณปลายสุดของทางเดินมีที่ประดิษฐานพระวิญญาณของจักรพรรดิเมจิและจักรพรรดินีโชเก็นอยู่ แม้ว่าสุสานจริงที่ใช้เป็นที่ฝังศพสุดท้ายจะอยู่ไกลออกไปทางตะวันตกในเกียวโต แต่ที่นี่นักท่องเที่ยวหรือชาวญี่ปุ่นที่ต้องการเข้ามาไหว้สักการะนิยมเข้าแถวเพื่อโยนเหรียญ 5 เยนลงในกล่องถวายและอธิษฐานต่อเทพผู้ปกครองศาลเจ้า ในการอธิษฐานก็มีขั้นตอนง่ายๆดังนี้ ให้โค้งคำนับ 2 ครั้ง แล้วตบมือ 2 ครั้ง อธิษฐาน แล้วคำนับอีกครั้ง สิ่งนี้แตกต่างจากการสวดมนต์ที่วัดในศาสนาพุทธซึ่งคุณเพียงแค่เอามือประสานกันเบา ๆ เพื่อสวดมนต์ ! หากจำไม่ได้เช่นเคย ให้มองคนที่คุณต่อแถวด้านหน้าและทำตาม !
ตามมารยาทและประเพณีแล้วระบุว่าผู้ที่มีบาดแผลเปิดและติดเชื้อ หรือ ผู้ที่อยู่ในอาการโศกเศร้าควรหลีกเลี่ยงการไปศาลเจ้าชินโต เพราะตามอดีตถือว่าบุคคลเหล่านี้ "ไม่บริสุทธิ์" แต่ในปัจจุบันไม่ได้ซีเรียสมากนัก นอกจากจะได้อธิษฐานและไหว้สักการะแล้วยังมีกิจกรรมและพิธีกรรมประจำปีอื่นๆอีกมากมาย และยังสามารถเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เมจิ จินกุ , สวนดอกไอริส หรือหากโชคดีจะเจอการจัดพิธีการแต่งงานแบบชินโตที่หาชมได้ยากในระหว่างช่วงเวลาที่คุณมาเยือน !

ติดตามเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นกับ JAPANKURU ได้ทาง Facebook และ Twitter
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS