แนะนำที่เที่ยวฮอกไกโดสุดคลาสสิก 2024 ก็ไปอีกได้!

ฮอกไกโด เกาะเหนือสุดดินแดนญี่ปุ่น ด้วยจุดเด่นที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ อย่างเช่น ทะเลสาบอะคัง อีกทั้งยังมีสภาพอากาศที่ดี ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นที่รักของทั้งคนญี่ปุ่นและนักท่องเที่ยว ผู้คนต่างแวะเวียนมาเยี่ยมไม่ขาดสายตลอดทั้งปี

การเดินทางมาที่ฮอกไกโดก็ง่ายมาก สามารถบินตรงจากไทยมาลงที่สนามบินนิวชิโตเซะ (New Chitose Airport) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองซัปโปโร หรือใครที่มาจากภูมิภาคอื่น ๆ ของญี่ปุ่น ก็สามารถนั่งชินคันเซ็นมาลงที่สถานี Hakodate-Hokuto ที่เมืองฮาโกดาเตะก็ได้เช่นกัน

สำหรับใครที่ชื่นชอบในเสียงดนตรี พลาดไม่ได้เลยสำหรับที่นี่ “พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี Otaru Music Box Museum” ที่เมืองซัปโปโร พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีแห่งนี้สร้างขึ้นโดยมีคอนเสปต์ว่าอยากจะเชื่อมโยงความทรงจำของผู้คนไว้ด้วยกันผ่านกล่องดนตรี เมื่อเข้ามาภายในจะพบกับบรรยากาศอันแสนอบอุ่น และกล่องดนตรีให้เลือกสรรมากมาย สามารถฟังและเลือกหยิบเพลงที่ถูกใจติดมือกลับบ้านไปได้เลย

Google map : https://maps.app.goo.gl/QyW2AB8fENF4KvEn7
เวลาทำการ : เปิดทำการทุกวัน 9.00-18.00 น.
การเดินทาง : เดิน 25 นาทีจากสถานี Otaru
Official website : https://www.otaru-orgel.co.jp/en

จุดชมวิวภูเขา Hakodate ได้รับการจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 3 จุดชมวิวยามค่ำคืนที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น เมื่อมองจากบนยอดเขา จะได้เห็นแสงไฟระยิบระยับราวกับมีดวงดาวอยู่บนพื้น
หรือจะเป็นวิวตอนกลางวันก็สวยไม่แพ้กัน ด้วยสถานที่ตั้งของภูเขาที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมาก ทำให้เราสามารถมองเห็นบรรยากาศของท่าเรือและทะเลได้อย่างชัดเจนเลย และยังมองเห็นป้อมปราการโกะเรียวคะคุ หรือป้อมปราการรูปดาวด้วย

Google map : https://maps.app.goo.gl/VKEdMwMNbDyE9uj69 
เวลาทำการ : แบ่งออกเป็น 2 ช่วง
20 เมษายน - 30 กันยายน 10:00 am - 10:00 pm
1 ตุลาคม - 19 เมษายน  10:00 am- 9:00 pm
การเดินทาง : นั่งรถราง Jujigai และเดินต่อไปยังสถานีกระเช้าลอยฟ้าเพื่อนั่งกระเช้าขึ้นไปยังยอดเขา
Official website : https://334.co.jp/th/

อยู่บริเวณเมือง Biei และ Furano บ่อน้ำสีฟ้ามรกตที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญจากการผสมกันของแม่น้ำและอะลูมิเนียม รวมถึงสารอื่น ๆ อย่างกำมะถัน ทำให้แม่น้ำเป็นสีฟ้าใสอมเขียว กลายเป็นจุดท่องเที่ยวสวยงามแปลกตาที่ไม่ควรพลาด

Google map : https://maps.app.goo.gl/5L9SKx2RkVx1dRkF9 
เวลาทำการ : สามารถไปชมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง : นั่งรถบัสประมาณ 20 นาที จากสถานี JR Biei

บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติ ตั้งอยู่ที่เมืองโนโบริเบ็ตสึ ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด ขึ้นชื่อเรื่องช่วยบรรเทาอากาศปวดและความดันโลหิต ติดอันดับหนึ่งในออนเซ็นดีที่สุดของญี่ปุ่น
เนื่องจากมีน้ำพุร้อนปะทุขึ้นมาจากใต้ดินอยู่ตลอด บวกกับมีไอความร้อนลอยขึ้นมา จึงทำให้บริเวณนี้ได้รับขนานนามว่าเป็น หุบเขานรก และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ ภายในตัวเมืองจึงมีรูปปั้นของเหล่ายักษ์วางประดับอยู่ด้วย ทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในนรกจริง ๆ เลย 

Google map : https://maps.app.goo.gl/w9rELDzcfwhezN7ZA 
การเดินทาง : ลงสถานี JR Noboribetsu และนั่งรถบัสต่อประมาณ 15 นาที (รถบัสออกชั่วโมงละ 1-2 คัน)

เทศกาลไฮไลท์ประจำฤดูหนาวจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก เทศกาลหิมะซัปโปโร! (Sapporo Snow Festival) ภายในงานมีจัดแสดงผลงานของนักแกะสลักท้องถื่น รวมไปถึงเปิดโอกาสให้นักแกะสลักจากทั่วโลกมาร่วมประชันฝีมือ วาดลวดลายบนน้ำแข็งได้ที่นี่ แน่นอนว่าทีมแกะสลักของไทยก็ลงแข่งขันและได้รับรางวัลตลอดหลายปีที่ผ่านมา (ถึงแม้บ้านเราจะไม่มีหิมะก็ตาม) สามารถร่วมลุ้นไปพร้อม ๆ กันได้ทุกเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี นอกจากนี้ตอนกลางคืนยังมีจัด illumination ให้ได้เดินเล่นในงานกันยาว ๆ เลย

Google map : https://maps.app.goo.gl/Tne3S5VerjP8YGx47 
ช่วงเวลา : จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในช่วงสัปดาห์แรกของเดือนกุมภาพันธ์  
สถานที่จัด : สถานที่จัดแสดงหลักคือ สวนสาธารณะโอโดริ (Odori Park) 
วิธีการเดินทาง : นั่งรถไฟใต้ดินสายนัมโบกุหรือโทโฮไปลงที่สถานี Odori สวนอยู่ติดกับสถานี หรือเดิน 10 นาทีจากสถานี Sapporo ก็ได้เช่นกัน

Shiroi Koibito คุกกี้สอดไส้ไวท์ช็อคโกแลต ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของฮอกไกโด ที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องได้ซื้อเจ้าคุกกี้นี่ติดมือกลับบ้านไปด้วยอย่างแน่นอนเลย ด้วยความโด่งดังของ Shiroi Koibito จึงมีกิจกรรมทัวร์โรงงานทำขนมชิ้นนี้ขึ้นมาที่ Shiroi Koibito Park ที่นอกจากจะเปิดโอกาสให้เราเข้าไปดูความเป็นมาของขนมแล้ว ยังมีกิจกรรม Workshop ตกแต่งหน้าคุกกี้ หรือทำคุกกี้ด้วยตัวเอง รายละเอียดอื่น ๆ ทีมงานเจแปนคุรุเคยแนะนำไว้ สามารถอ่านที่บทความนี้ได้เลย!

Google map : Shiroi Koibito park
เวลาเปิดทำการ : 10.00-19.00 น.
Official Website : https://www.shiroikoibitopark.jp/en/