ฤดูท่องเที่ยว ชมทุ่งดอกไม้ หรือ สวนดอกไม้ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่พลาดไม่ได้สำหรับสายถ่ายรูป หรือ คนที่ชอบท่องเที่ยวแบบสบายๆหากมาเยือนญี่ปุ่น

การชมดอกไม้ หรือภาษาญี่ปุ่น เรียกว่า「ฮา-นา-มิ」 (花見) เป็นประเพณีจีนเข้ามาสู่ญี่ปุ่นเมื่อช่วงประมาณพันปีที่แล้ว บางคนอาจจะคุ้นเคยกับการชม ดอกซากุระ หรือเข้าใจว่า「ฮานามิ」(花見) คือการชมดอกซากุระเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่จริงๆแล้วยังสามารถใช้กับการชมดอกไม้นานาชนิดได้อีกด้วย ! ทางเรามีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทั่วประเทศที่ทุกคนสามารถเพลิดเพลินกับดอกไม้นานาพันธุ์ หากเบื่อซากุระแล้วละก็ .. ลองไปสัมผัสบรรยากาศกลางทุ่งใหญ่ดูกันบ้าง !

① ต้นบ๊วย (Ume 梅)・ช่วงเดือน มกราคม ~ มีนาคม

ต้นบ๊วย หรือ พลัม ถือเป็นต้นไม้ที่จะออกดอกผลิบานในต้นๆของฤดูกาล เริ่มตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนมกราคม (ในบางภูมิภาค และ บางสายพันธุ์) ไปจนถึงเดือนมีนาคม ของทุกปี ดอกบ๊วยในญี่ปุ่นดูผ่านๆจะคล้ายดอกซากุระมาก แต่ลำต้นจะมีขนาดที่เล็กกว่า และ จำนวนดอกน้อยกว่าต้นซากุระ เป็นต้นไม้ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราญของจีน เชื่อมโยงถึงการเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่ (ตรุษจีน) ซึ่งตรงช่วงกับวันที่ต้นพลัมบานสะพรั่งอย่างสมบูรณ์แบบพอดี (ที่ประเทศจีน) ต้นพลัม มีดอกเฉดสีต่างๆตั้งแต่สีชมพูอ่อนไปจนถึงสีม่วงแดงเข้ม เป็นสัญลักษณ์ของปีใหม่จีนที่สดใส และเป็นการบอกกลายๆว่าถึงเวลาเปลื่ยนฤดูและอากาศจะอบอุ่นในเร็ววัน ! หากมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงเดือน มกราคม – มีนาคมแล้วละก็ถือเป็นอีกทางเลือกที่ดีเลยทีเดียว

ดอกบ๊วย ส่วนใหญ่จะถูกปลุกไว้ตามสวนสาธารณะเล็กๆทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่จะมีสถานที่ที่คนนิยมไปชมมากคือ สวน ไคราคุเอ็น (偕楽園) ในจังหวัดอิบารากิ ห่างจากโตเกียวออกไปประมาณสองถึงสามชั่วโมง ไคราคุเอ็น (偕楽園) เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ติด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น และยังถือเป็นสวนสาธารณะแห่งแรกของประเทศ มีต้นบ๊วยมากกว่า 3,000 ต้น จาก 100 สายพันธุ์ ซึ่งทำให้ดอกบ๊วยของที่นี้มีฤดูกาลผลิบานออกดอกยาวนานเป็นพิเศษ และยังมีสีสัน รูปทรงที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์

เมืองมิโตะ จังหวัด อิบารากิ ได้เป็นเจ้าภาพจัดเทศกาลชมดอกบ๊วยประจำปีในทุกๆปีต่อเนื่องกันมายาวนานกว่า 120 ปี ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่เพียงแต่จะได้เพลิดเพลินกับการชมดอกไม้เท่านั้น ยังมีสินค้าที่ผลิตจากบ๊วย เช่น ขนม และ เหล้าบ๊วย (อุเมะชู 梅酒) วางจำหน่าย สามารถซื้อติดมือกลับบ้านไปเป็นของฝากได้อีกด้วย

สวน ไคราคุเอ็น (Kairakuen 偕楽園)
1-2 Tokiwacho, Mito, Ibaraki
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

② ผักกาดก้านขาว (Na no Hana 菜の花)・ช่วงเดือน มกราคม ~ มีนาคม

ดอกผักกาดก้านขาว หรือ นา โนะ ฮานะ (菜の花) ผักยอดฮิตในญี่ปุ่น ที่มีขายอยู่ตามซุปเปอร์มาเก็ต พบเจอได้ทั้งในรูปแบบน้ำมันพืช และ ผักก้านสด พร้อมนำมาทำอาหาร นิยมนำมาทำสปาเก็ตตี้ ผัด ต้ม ทอด

ได้ชื่อว่า ผักกาดก้านขาว แต่ผลิดอกเป็นสีเหลืองสวยงาม ออกดอกในช่วงเดือนมกราคม ~ มีนาคม ของทุกปี ภาษาอังกฤษเรียกว่าดอก Canola มีที่มาจาก Canada + Oil (แคนาดา + น้ำมัน) ดอกนา โนะ ฮานะ ลักษณะเป็นดอกเล็กๆโตกลางทุ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชม เหมือนอยู่ในฝัน ตื่นมาทามกลางทุ่งหญ้าสีทอง ต้นผักกาดก้านขาว สูงประมาณเอว หรือ ระดับสะโพก เหมาะกับการถ่ายภาพกลางทุ่งเป็นที่สุด

ต้นผักกาดก้านขาวปลูกง่ายมาก เลยมักจะพบเห็นเป็นหย่อมเล็กๆ ได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น แต่สถานที่ที่แนะนำให้ไปชม คือ บริเวณใกล้ๆกับสนามบินนาริตะ จังหวัดชิบะ ที่เรียกว่า นาริตะ ดรีม ฟาร์ม (Narita Yume Bokujo 成田ゆめ牧場) เป็นฟาร์มโคนม ที่ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ยุค เมจิ ปี 20 (พ.ศ. 2430) ปัจจุบันเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากทุ่งดอกผักกาดก้านขาวแล้วที่นี้ยังรายล้อมไปด้วยต้นซากุระจำนวนมาก หากมาในช่วงที่ดอกไม้บานพอดี ก็จะสามารถพบกับวิวทิวทัศน์ที่หาชมได้ยาก มีทั้งสีเหลืองของดอก ผักกาดก้านขาว และ สีชมพู ของซากุระ ตัดกันสวยงาม และยังสามารถอร่อยไปกับซอฟครีมนมโคแท้จากฟาร์ม เข้ากับบรรยากาศสบายๆกลางทุ่ง

นาริตะ ดรีม ฟาร์ม (Narita Yume Bokujo 成田ゆめ牧場)
730ｰ3 Nagi, Narita, Chiba
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

③ ต้นพีช (Momo 桃)・ช่วงเดือน มีนาคม ~ เมษายน

ต้นพีช ผลิดอกสีชมพูอ่อนอันเป็นเอกลักษณ์ .. มักจะออกดอกผลิบานช่วงเดียวกับซากุระ แต่จะเร็วกว่าเล็กน้อย หากมาถึงญี่ปุ่นล่วงหน้าก่อนที่ซากุระจะบานแล้วละก็ ดอกพีชก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีเช่นกัน สีของดอกพีชจะเป็นสีเฉดเดียวกันทั้งหมด ทำให้มองไปทางไหนก็จะลายล้อมไปด้วยสีชมพูอ่อน ทั้งดอกไม้ที่อยู่บนต้น หรือดอกที่โรยร่วงลงมาตามพื้นดินที่ปกคลุมไปตามทางเดิน

สถานที่ที่คนญี่ปุ่นนิยมไปชมดอกพีชห่างจากโตเกียวออกไปไม่ไกลอยู่ใน มิโตะ จังหวัดอิบารากิ ที่มีชื่อว่า โคกะโซโก โคเอ็น (古河綜合公園) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1455 เมื่อถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ได้มีการร่วมมือกับคนในเมืองช่วยกันปลูกต้นพีชขึ้นมา สำหรับแจกจ่ายคนในชุมชน ลำต้นนำมาเป็นฟื้น และลูกพีชนำมาเป็นอาหาร แต่ปัจจุบันที่สวนมีจัดเทศกาลเฉลิมฉลองการผลิบานของดอกพีชในทุกปี เริ่มตั้งแต่สมัยช่วงเมจิ สวนนี้ก็เป็นที่นิยมมากขึ้น มีทั้งคนท้องถิ่น และ นักท่องเที่ยวมากมายหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ในปี ค.ศ. 1970 โดยเพิ่มจำนวนของต้นไม้ และ ประดับตกแต่งสวนเพิ่มเติมทำให้สวนแห่งนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น

โคกะโซโก โคเอ็น (Koukasougo Koen 古河綜合公園)
399-1 Konosu, Koga, Ibaraki
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

④ ดอกวิสทีเรีย หรือ ดอกฟุจิ (Fuji 藤)・เมษายน ~ พฤษภาคม

วิสทีเรียมีหลากหลายสายพันธุ์ทั่วโลก แต่ที่ญี่ปุ่นนิยมปลูกคือพุ่มวิสทีเรียสีม่วงที่มีลักษณะบานออกมาเป็นชั้นๆจับตัวเป็นเถาวัลย์ ห้อยลงมาคล้ายม่านยาวๆ เมื่อไม่นานมานี้เองที่ญี่ปุ่นได้ค้นพบความสวยงามของดอกวิสทีเรียนี้ และ เริ่มส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

เถาวัลย์ดอกวิสทีเรีย สวยดั่งหลุดเข้าไปสู่โลกเทพนิยาย ไม่ว่าใครหากได้เข้าไปชมแล้วก็อดจะตกหลุมรักไม่ได้ เมื่อพูดถึงสวนที่มีดอกวิสทีเรียขึ้นชื่อแล้วละก็ สวนดอกไม้ อาชิคางะ (あしかがフラワーパーク) มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก ติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น ที่สวนมีต้นวิสทีเรียขนาดมหึมาที่ปลุกตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 พอถึงฤดูผลิบาน ก็สะพรั่งไปด้วยสีม่วงและสีขาวของดอกวิสทีเรีย และยังมีดอกไม้อีกหลากหลายสายพันธุ์ให้ชมไม่มีเบื่อ นอกจากนี้ยังมี วิสทีเรียสีชมพู สีเหลืองทอง สีสันตัดกันสวยงาม

ที่สวนดอกไม้ อาชิคางะ (あしかがフラワーパーク) นี้เปิดตั้งแต่กลางวันถึงกลางคืน ทำให้ผู้คนได้ชื่นชมสวนในช่วงเวลาที่ต่างกัน ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดที่พลาดไม่ได้ หากมาเยือน จังหวัด โทจิงิ ในช่วงเดือน เมษายน ~ พฤษภาคม

สวนดอกไม้ อาชิคางะ (Ashikaga Flower Park あしかがフラワーパーク)
Hasamacho, Ashikaga, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

⑤ ดอกเนโมฟีลา หรือ Baby Blue Eyes (ネモフィラ) ・ เมษายน ~ พฤษภาคม

ดอกเนโมฟีลา มีต้นกำเนิดมาจากทวีปอเมริกาเหนือ และ เริ่มเป็นที่นิยมในญี่ปุ่นเมื่อไม่นานมานี้เอง ตัวดอกมีสีฟ้า สดใส ขึ้นเป็นต้นเล็กๆบนพื้นดิน ควบคลุมเนินเขาทั้งลูก เปลื่ยนเนินเขาธรรมดาให้เป็น ทุ่งหญ้าสีฟ้าอ่อน ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่บนฟ้า ทามกลางก้อนเมฆ หรือบางคนก็เปรียบทุ่งดอกเนโมฟีลาว่าคล้ายกับการเดินบน คลื่นดอกไม้ ทามกลางมหาสมุทรอันเงียบสงบ

ทุ่งเนโมฟีลาที่โด่งดัง ตั้งอยู่ที่ ฮิตาจิ ไคฮิน โคเอ็น (国営ひたち海浜公園) จังหวัด อิบารากิ ถือเป็นสถานที่เที่ยวยอดฮิตของจังหวัด เมื่อนานมาแล้ว แถวทุ่งเนโมฟีลานี้ถูกใช้เป็นฐานทัพอากาศสำหรับกองทัพญี่ปุ่น กินพื้นที่ตามแนวชายฝั่งตะวันออก และยังเป็นสถานที่ฝึกวางระเบิดสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐฯ ก่อนที่คนในพื้นที่จะเปลี่ยนให้เป็นสวนสาธารณะ ปลูกดอกไม้ครอบคลุมเนินเขา ผู้มาเยี่ยมชมอุทยานสามารถเพลิดเพลินกับสนามหญ้าเขียวขจี มีชิงช้าสวรรค์ขนาดยักษ์ และ ทุ่งดอกเนโมฟีลา และยังมีจุดท่ีสามารถมองเห็นวิวมหาสมุทรแปซิฟิกไกลสุดลูกหูลูกตา ถือเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามติดอันดับต้นๆรอคนมาเยือนในฤดูกาลที่จะถึงนี้ !

ฮิตาจิ ไคฮิน โคเอ็น (Hitachi Seaside Park 国営ひたち海浜公園)
605-4 Onumacho, Mawatari, Hitachinaka, Ibaraki
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)