เสพงานศิลป์ที่ Artizon พิพิธภัณฑ์ศิลปะใกล้สถานีโตเกียว

Tokyo Culture พิพิธภัณฑ์ 2024.01.30
แวะชม “Artizon” หอศิลป์รวมนิทรรศการและงานศิลปะทั้งสไตล์ตะวันตกและตะวันออก เดินทางง่าย ๆ เพียงไม่กี่นาทีจาก Tokyo Station เหมาะสำหรับเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนระหว่างเที่ยวญี่ปุ่น!
รวบรวมศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกไว้ที่ The Artizon Museum
เดินจากสถานีโตเกียวเพียงไม่กี่ก้าว ก็จะได้พบกับพิพิธภัณฑ์ Artizon ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงของสำนักงานและห้างแบรนด์ดังในย่าน Kyobashi 
เป็นสถานที่เก็บรวบรวมสมบัติล้ำค่าทางศิลปะ จัดแสดงตั้งแต่ภาพวาดญี่ปุ่นดั้งเดิม ภาพวาดญี่ปุ่นสไตล์ตะวันตก งานศิลปะชวนฝันแบบอิมเพรสชันนิสม์ ไปจนถึงงานศิลปะอื่น ๆ อีกหลากหลายแขนงจากทุกยุคทุกสมัย ทำให้พิพิธภัณฑ์ Artizon มีความโดดเด่นไม่ซ้ำใครในโลกศิลปะ และคุ้มค่าแก่การมาเยี่ยมชม

ชื่อ Artizon มาจากการผสมผสานระหว่าง "art(ศิลปะ)" และ "horizon(ขอบฟ้า)" ด้วยความตั้งใจจะผลักดันงานศิลปะในทุกทิศทาง เพื่อเปิดมุมมองใหม่ ๆ และพาศิลปะเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของผู้คน
กว่าจะมาเป็น Artizon
เริ่มต้นจากการที่ Ishibashi Shojiro ผู้ก่อตั้งบริษัทยางรถยนต์ Bridgestone) นำคอลเลกชันงานศิลปะส่วนตัวของเขามาจัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์บริดจสโตนในเมืองเคียวบาชิ และเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชม

ไม่กี่ปีหลังจากนั้น ด้วยความหลงใหลในงานศิลปะของ Ishibashi จึงได้ก่อตั้งมูลนิธิ Ishibashi เพื่อนำเงินทุนมาขยายและพัฒนาพิพิธภัณฑ์ศิลปะบริดจสโตนแห่งนี้ 

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ศิลปะบริดจสโตน ได้จัดแสดงงานศิลปะหลากหลายแขนง และเพื่อรองรับงานศิลปะที่จะเพิ่มมากขึ้น จึงมีการปรับโฉมอาคารใหม่ จนเปิดตัวอีกครั้งในปี 2020 ภายใต้ชื่อใหม่ “Artizon” 

Artizon Museum 
1-7-2 Kyobashi, Chuo City, Tokyo
วันและเวลาเปิดให้บริการ: 10:00 - 18:00 / วันศุกร์ (นอกจากวันหยุดนักขัตฤกษ์) เปิดถึง 20:00 
* รอบสุดท้าย 30 นาทีก่อนปิด 
* หยุดทุกวันจันทร์ หรือวันอังคาร ในกรณีที่วันจันทร์เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์
ตั๋วเข้าชม: 
・สามารถซื้อตั๋วได้ที่เว็บไซต์ของพิพิธภัณฑ์ หรือซื้อหน้างาน (ในกรณีที่ยังไม่เต็ม)
・ค่าเข้าชมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับนิทรรศการ สำหรับนักเรียนระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นเข้าฟรี โดยต้องแสดงบัตรนักเรียน
・จำเป็นต้องจองล่วงหน้า ยกเว้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นหรือต่ำกว่า สามารถเข้าได้ฟรีโดยไม่จำเป็นต้องซื้อตั๋วล่วงหน้า
Official Website (en)
พาส่องงานศิลปะใน Artizon
ภายในพิพิธภัณฑ์มีแกลลอรี่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการหลายชั้น เพื่อให้ได้ชมผลงานที่หลากหลายจึงมีการหมุนเวียนเปลี่ยนนิทรรศการอยู่เสมอ บางช่วงจัดแสดง "ผลงานคัดสรรจากคอลเลกชันมูลนิธิ Ishibashi" หรือบางช่วงมีการนำผลงานของเหล่าจิตรกรชาวตะวันตกชื่อดังอย่าง Monet, Van Gogh, Picasso, Renoir และอื่น ๆ อีกมากมายมาให้ได้ชม 

ไม่เพียงแต่ผลงานของเหล่าจิตรกรชาวตะวันตกเท่านั้น ที่ Artizon ให้ความสำคัญกับผลงานของจิตรกรชาวญี่ปุ่นไม่แพ้กัน มีจัดแสดงงานศิลปะญี่ปุ่น โดยเน้นที่ภาพวาดสมัยใหม่ อย่าง “Yoga” (洋画) ภาพวาดสไตล์ญี่ปุ่นที่ใช้เทคนิคตะวันตก “Reminiscence of the Tempyo Era” (天平の面影) ของคุณ Takeji Fujishima หรือภาพ “A Gift of the Sea” (海の幸) วาดโดยคุณ Shigeru Aoki ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและตะวันออกให้เข้ากันได้อย่างดี

ระหว่างที่เดินชมไปเรื่อย ๆ เราอาจได้พบผลงานที่เป็น “ทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญของญี่ปุ่น” ด้วยนะ การมีโอกาสได้เห็นงานศิลปะทรงคุณค่าเหล่านี้ อาจทำให้ประสบการณ์การเที่ยวญี่ปุ่นเป็นที่น่าจดจำมากขึ้นเลยทีเดียว
นอกจากจะนำผลงานศิลปะในคอลเลกชันของตัวเองมาจัดแสดงแล้ว Artizon ยังร่วมมือกับสถาบันหรือมูลนิธิอื่น ๆ นำผลงานล้ำค่ามาจัดแสดงร่วมกัน จนเกิดเป็นนิทรรศการที่สมบูรณ์แบบและแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร 
หนึ่งในธีมที่นำมาใช้จัดแสดงในช่วงนี้ มักเป็นเรื่องราวของ “ผู้หญิงในศิลปะ” อย่างนิทรรศการล่าสุด “Marie Laurencin: An Eye for Her Time” ที่จะพาเราไปรู้จักจิตรกรหญิง Marie Laurencin ผ่านภาพวาดของเธอ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้มาเยี่ยมชมได้เพลิดเพลินกับงานศิลปะจากมุมมองใหม่ และอาจได้รู้จักกับศิลปินหน้าใหม่เพิ่มขึ้นด้วย!
ที่ Artizon อัดแน่นไปด้วยผลงานในทุกพื้นที่ของอาคาร เมื่อเดินออกมากจากแกลลอรี่ของนิทรรศการหลักแล้ว ก็จะได้พบกับรูปปั้นหินอ่อนของเทพีวิกตอเรีย (Victoria) เทพีแห่งชัยชนะ สร้างโดย Christian Daniel Rauch ตั้งอยู่ตรงซอกทางเดินที่บริเวณชั้น 4 ในขณะที่รูปปั้นเทพีเซคเมต (Sekhmet) เทพีแห่งสงครามของอียิปต์ คอยดูแลบริเวณชั้น 5 ซึ่งทั้งสองจุดนี้ถือเป็นมุมถ่ายรูปฮอตฮิตที่สุดของที่นี่   

อีกหนึ่งไฮไลท์ไม่ควรพลาด คือห้องแกลลอรี่เล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากที่ตั้งของรูปปั้น มองจากภายนอกอาจเห็นเป็นห้องมืดไม่เตะตา แต่ภายในมีฉากภาพวาดญี่ปุ่นอายุหลายศตวรรษซ่อนอยู่หลังกระจกใส รอให้เราเข้าไปค้นพบ
สำหรับใครที่สนใจอยากรู้เรื่องราวของผลงานแต่ละชิ้นมากขึ้น ก็สามารถดาวน์โหลดแอป Artizon Museum บนโทรศัพท์เพื่อฟังคำบรรยายจากผู้เชี่ยวชาญ! (ปัจจุบันมีให้บริการในภาษาญี่ปุ่น อังกฤษ จีน และเกาหลี) 

ความพิเศษของแอปนี้ คือการใช้ location ของโทรศัพท์เพื่อดูตำแหน่งที่เราอยู่ และแนะนำคำบรรยายของภาพที่อยู่ใกล้เราขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติเลย เสียบหูฟังแล้วเข้าสู่โลกของงานศิลปะกัน
การตกแต่งอาคารก็เป็นส่วนหนึ่งของงานศิลปะ
แน่นอนว่าหลาย ๆ คนมีเป้าหมายเพื่อมาชมงานศิลปะที่จัดแสดงภายในพิพิธภัณฑ์ Artizon แต่ด้วยตัวอาคารที่เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์เองก็มีความน่าสนใจและสวยงามในฐานะงานศิลปะเช่นกัน ตัวอาคารนี้ได้รับการออกแบบโดยบริษัท TONERICO: INC ด้านหน้าอาคารตกแต่งโดยใช้กระจกเงา ให้ดูหรูหราเข้ากับบรรยากาศของเมืองโดยรอบ ส่วนด้านในตกแต่งให้ดูล้ำสมัยและน่าค้นหาด้วยการใช้สีเทา เรียกได้ว่าสวยงามไม่แพ้งานศิลปะที่จัดแสดงภายในเลยทีเดียว

อีกหนึ่งความพิเศษที่ทำให้พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แตกต่างจากที่อื่น คงจะเป็นความพิถีพิถันในทุก ๆ ขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบปรับโฉมอาคารใหม่เพื่อให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน การคัดเลือกผลงานที่จะนำมาจัดแสดง ไปจนถึงการดูแลพิพิธภัณฑ์โดยผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง จัดวางประกอบทุกอย่างจนออกมาดูเข้ากันเป็นอย่างดี 



แวะมาเล่าเพิ่มเติมว่าเขาพิถีพิถันแม้กระทั่งการเลือกผนังกระเบื้องที่ใช้ในอาคาร แต่ละชั้นจะมีผนังที่มีพื้นผิวหรือรูปแบบที่แตกต่างกันไป จนทีมงาน Japankuru จำต้องหันไปสังเกตผนังทุกครั้งที่ขึ้นลงบันได้เลื่อนเลยทีเดียว

นอกจากนี้ เมื่อลงบันไดเลื่อนมาถึงชั้น 3 จะได้พบกับ "กำแพงโฟมสีขาว" ขนาดใหญ่ เปรียบเสมือนอีกผลงานศิลปะที่กลายเป็นจุดถ่ายรููปที่ไม่ควรพลาด
เมื่อเดินเข้าไปในแต่ละชั้น จะพบกับแกลลอรี่กว้างขวาง ตกแต่งด้วยผนังที่จัดวางเองเพื่อให้สามารถรองรับกับงานศิลปะทุกประเภท ทั้งยังมีลูกเล่นอื่น ๆ ให้เราได้ชื่นชมงานศิลปะจากมุมที่ไม่ค่อยได้เห็น อย่างในจุดแวะพักที่คิดว่าเป็นที่สำหรับนั่งพักเฉย ๆ เราก็ยังสามารถชมวิวเมืองภายนอกเสมือนเป็นงานศิลปะอีกชิ้นหนึ่งได้! (ที่สำคัญคือมีปลั๊กไฟให้ใช้ ถ้าจำเป็นต้องชาร์จโทรศัพท์เพราะถ่ายรูปมากเกินไปจนแบตหมด!)
ร้านขายของฝากและคาเฟ่
หลังจากเพลิดเพลินกับงานศิลป์แล้ว สามารถมาเลือกซื้อสินค้าติดไม้ติดมือกลับบ้านได้ที่ gift shop ด้านล่าง ซึ่งสินค้าหลายชิ้นมีแรงบันดาลใจจากงานศิลปะในคอลเลคชันของพิพิธภัณฑ์เองด้วย
อย่างเช่น เข็มกลัดรูปสัตว์หรือสิ่งของที่ปรากฏอยู่ในงานศิลปะ ของเล่นไม้สร้างจากตัวละครในภาพวาด หรือโปสการ์ดและพวงกุญแจน่ารัก ๆ 

นอกจากนี้ยังมีภาพพิมพ์ศิลปะหลายขนาด ชุดสีเทียนและดินสอสีน่ารัก ๆ ไปจนถึงใบชาหรือครีมทามือที่ออกแบบแพ็กเกจให้เข้ากับงานศิลปะ และเนื่องจากนิทรรศการภายในหอศิลป์จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แน่นอนว่าจะมีสินค้าใหม่ ๆ มาวางจำหน่ายเพิ่มด้วยเช่นกัน เราจะได้พบกับสินค้าไม่ซ้ำกันในทุกครั้งที่ไปเลย
ชั้นล่างของพิพิธภัณฑ์มี Artizon Museum Café เหมาะสำหรับใครที่อยากนั่งพักผ่อนหลังเดินดูงาน จิบเครื่องดื่มไปพลางถ่ายรูปสวย ๆ หรือทานอาหารว่างสไตล์ตะวันตกก็ได้เช่นกัน 
โดยคาเฟ่จะแบ่งช่วงเวลาให้บริการเป็น 3 ช่วง คือ Lunch Time(11.00 - 14.30 น.) Cafe Time (14.30 น. - 18.00 น.) และ Diner Time(17.00 - 21.00 น.) ซึ่งเมนูจะแตกต่างกันตามแต่ละช่วงเวลา รวมถึงอาจเปลี่ยนแปลงไปตามนิทรรศการที่จัดอยู่ในขณะนั้นด้วย 

อย่างเมนูเครื่องดื่ม "ruby Elderflower" ที่ทีมงาน Japankuru ได้มีโอกาสลอง ก็เป็นเมนูที่ collab กับนิทรรศการ Marie Laurencin และจะเสิร์ฟเฉพาะช่วงที่จัดนิทรรศการเท่านั้น

แม้เมนูอาจแตกต่างกันไปบ้าง แต่รับรองได้ว่าเป็นร้านที่ทั้งอร่อยและดูหรูหรา ควรค่าแก่การมาลิ้มลอง
สำหรับใครที่สนใจ แนะนำว่าควรจองออนไลน์จากทางหน้าเว็บไซต์ก่อนไปจะดีที่สุดค่ะ
ให้ Artizon ช่วยเปิดมุมมองใหม่ของงานศิลปะ
พิพิธภัณฑ์ Artizon รวบรวมงานศิลปะจากทั่วทุกมุมโลกและไม่หยุดที่จะสร้างสรรค์นิทรรศการใหม่ ๆ อยู่เสมอ ด้วยหวังว่าจะส่งเสริมให้งานศิลปะเป็นที่รู้จักมากขึ้น ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญที่ร่วมกันนำเสนอนิทรรศการต่าง ๆ นี้ ทำให้ทั้งผู้ที่หลงใหลในงานศิลปะอยู่แล้ว หรือผู้ที่เพิ่งเริ่มสนใจก็สามารถสนุกสนานไปกับโลกของศิลปะได้

นอกจาก Artizon แล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์รอบสถานีโตเกียวอีกมากมายที่รอให้เราไปเยี่ยมชม (สามารถดูข้อมูลของพิพิธภัณฑ์อื่นได้ที่นี่) เดินทางง่าย ๆ โดยรถไฟทั้งสาย JR Yamanote หรือ Subway
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้โลกของศิลปะก้าวไปข้างหน้า และทำให้สถานีโตเกียวเป็นศูนย์กลางทางศิลปะและวัฒนธรรมอีกแห่งของญี่ปุ่นกันเถอะ!
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS