เที่ยวพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะในโตเกียวสกายทรี พร้อมอัปเดตโซนใหม่ในปี 2024

Tokyo Entertainment โตเกียวสกายทรี 2024.01.31
กำลังมองหากิจกรรมสนุก ๆ ทำในปี 2024 อยู่หรือเปล่า? หากยังไม่รู้จะไปไหน ขอแนะนำให้ไปสัมผัสกับเหล่าสัตว์น้ำและครอบครัวเพนกวินที่ “พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ” ในโตเกียวสกายทรี พร้อมพาไปอัปเดตโซนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสระแมงกะพรุน อุโมงค์แสงสี ทีมงาน JAPANKURU ได้รวบรวมความสนุกภายในอควาเรียมใจกลางโตเกียวแห่งนี้ไว้ให้แล้ว
พบกับความสนุกใกล้โตเกียวสกายทรี ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Sumida
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะตั้งอยู่ในศูนย์การค้า Solamachi ชั้นล่างของ Tokyo Skytree เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสุดฮอตฮิตสำหรับการไปเที่ยวกับครอบครัว หรือจะไปเดตกับแฟนก็ดีเหมือนกัน!
ไฮไลท์สำคัญของที่นี่จะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก “เหล่าครอบครัวเพนกวินกว่า 50 ตัว” ที่พากันว่ายน้ำเล่นกันอย่างสบายใจอยู่ภายใน แถมมี Family tree แผนผังอธิบายความเป็นมาของครอบครัวเพนกวินแบบละเอียดยิบ 
นอกจากจะเป็นดาวเด่นของซุมิดะอควาเรียมแล้ว เจ้าเพนกวินเหล่านี้ยังเป็นทูตการท่องเที่ยวของเขตซุมิดะอีกด้วย
ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ ไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่ของครอบครัวเพนกวินเท่านั้น แต่ยังมีสัตว์ทะเลอีกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น แมงกะพรุนตัวใส แมวน้ำมีหู หรือปลาไหลสวนตัวจิ๋ว อาศัยอยู่ร่วมกับมนุษย์ผู้ดูแลเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้าหน้าที่ให้ความสำคัญกับการดูแลครอบครัวสัตว์ทะเลเหล่านี้ จัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ใช้ระบบน้ำทะเลเทียมพิเศษ ทำให้เรามั่นใจได้ว่าน้อง ๆ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่สบายภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ (Sumida Aquarium)
Tokyo Skytree Town Solamachi 5F/6F, 1-1-2 Oshiage, Sumida-ku, Tokyo
เวลาเปิดทำการ : วันธรรมดา 10:00 - 20:00 น. | วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์  9:00 - 21:00 น.
*เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 1 ชั่วโมงก่อนเวลาปิด
*โดยปกติ พิพิธภัณฑ์ซุมิดะเปิดทำการตลอดทั้งปี แต่อาจปิดชั่วคราวเพื่อบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก แนะนำให้เช็คในเว็บไซต์ก่อนเข้าชม
วิธีการเดินทาง : ติดกับสถานี Tobu Tokyo Skytree หรือเดิน 5 นาทีจากสถานี Oshiage (Skytree)
Official Website (en)

วันนี้ทีมงาน JAPANKURU จะพาไปส่องว่ามีสัตว์น้ำอะไรอยู่ในอควาเรียมแห่งนี้บ้าง ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย
① เหล่าเพนกวิน ที่ไม่ว่าจะดูจากมุมไหนก็น่ารัก
ใจกลางอควาเรียมแห่งนี้ มีตู้ขนาดใหญ่ความจุกว่า 350 ตัน เป็นที่อยู่ของเหล่าเพนกวินหลายสิบตัว ตู้น้ำถูกสร้างตามสภาพแวดล้อมที่เหมาะกับการทำกิจกรรมของเพนกวิน ไม่ว่าจะกระโดดน้ำ ว่ายน้ำ ดำน้ำ หรือลอยตัวอยู่เฉย ๆ ก็ทำได้อย่างสบาย และด้วยลักษณะของตู้น้ำที่เปิดโล่งด้านบน ทำให้เราสามารถมองเห็นเหล่าเพนกวินได้จากชั้น 6 หรือจะลงมายืนดูตรงข้างตู้ที่ชั้น 5 ก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าสามารถชมความน่ารักของน้องได้ทุกมุมเลย
ใกล้ ๆ กับพื้นที่โชว์เพนกวิน มีแผนผัง Family tree ที่เป็นที่พูดถึงเป็นอย่างมากในโลกอินเตอร์เน็ต เพราะมันไม่ใช่แผนผังบอกความสัมพันธ์ของเหล่าเพนกวินธรรมดา ๆ  แต่ยังบอกเล่าเรื่องราวและบุคลิกของเพนกวินแต่ละตัวไว้อย่างละเอียด รวมไปถึงมีบันทึกข้อความจากผู้ดูแลเพนกวินด้วย 
เนื่องจากแผนผังครอบครัวนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก ปัจจุบันทางพิพิธภัณฑ์มีแปลเป็นภาษาอังกฤษ ให้ชาวต่างชาติได้รู้จักเรื่องราวของเหล่าเพนกวินมากขึ้นแล้ว เชื่อว่าใครที่ได้อ่านแผนผังนี้จะต้องตกหลุมรักเพนกวินอย่างแน่นอนเลย
② เข้าสู่โลกอันแสนสงบของเหล่าเยลลี่แมงกะพรุน
หลบหลีกจากความครึกครื้นของเหล่าเพนกวิน มาพักในห้องแมงกะพรุนแสนสงบกันสักครู่ แรกเริ่มเดิมที ภายในห้องนี้มีแค่แมงกะพรุนไม่กี่สายพันธุ์ว่ายกันอยู่ในตู้น้ำบนผนัง แต่หลังจากได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2020 ได้มีการสร้างแท็งก์รูปทรงรีขนาดใหญ่ เพียงพอสำหรับเป็นที่อยู่ของแมงกะพรุนสีใสกว่า 500 ตัว ลำตัวโปร่งแสงของเหล่าแมงกะพรุนเปลี่ยนสีไปตามแสงที่ส่องสว่างในน้ำ ทำให้เรารู้สึกเหมือนแมงกะพรุนกำลังเปลี่ยนสีด้วยตัวมันเอง

บนแท็งก์รูปทรงรีนี้ มีทางเดินกระจกใสพาดด้านบน เราสามารถมองดูน้องล่องลอยผ่านใต้เท้าเราไปได้
พอได้มองบรรดาแมงกะพรุนลอยอย่างอิสระในน้ำ พร้อมบรรยากาศสลัว ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกเลย
เดินมาเรื่อย ๆ จากห้องแมงกะพรุนจะพบกับ “อุโมงค์คาไลโดสโคป” ทางเดินยาวตกแต่งด้วยกระจก แสงไฟ และแมงกะพรุนตัวจิ๋วในผนัง ใช้เป็นเส้นทางลัดเดินเข้าสู่ใจกลางอควาเรียม หรือจะแวะนั่งพักในอุโมงค์นี้ก็ได้เช่นกัน

ด้วยการตกแต่งที่ดูแปลกตา อุโมงค์นี้จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปมากที่สุด
แมงกะพรุนที่โชว์ตัวอยู่ทั้งหมดที่นี่ เป็นแมงกะพรุนที่เกิดและเติบโตภายในอควาเรียม เราสามารถชมห้องปฏิบัติการเพาะพันธุ์แมงกะพรุนจำลองได้ที่บริเวณโซน "Aqua Base" ที่จะเล่าการเติบโตตั้งแต่ยังเป็นแมงกะพรุนตัวจิ๋ว ไปจนถึงช่วงโตเต็มวัย!

รอบ ๆ โซน Aqua Base มีเจ้าหน้าที่สแตนด์บายอยู่เพื่อคอยตอบทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับแมงกะพรุน หรือแบ่งปันเรื่องราวของสัตว์น้ำชนิดอื่น ๆ ซึ่งเป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่ทำให้อควาเรียมแห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชม
③ ยกทะเลมาไว้ในตู้ ดูสัตว์น้ำจากหมู่เกาะ Ogasawara
เดินไม่ใกล้จากเพนกวิน จะพบกับ "The Ogasawara Sea Life Tank" ตู้ปลาขนาดใหญ่ ที่จำลองสภาพแวดล้อมของทะเลรอบหมู่เกาะโอกาซาวาระ ซึ่งเป็นกลุ่มเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของโตเกียว ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางธรรมชาติของโลกในปี 2011 แต่เราไม่ต้องไปไกลถึงหมู่เกาะโอกาซาวาระก็สามารถทำความรู้จักกับสัตว์น้ำกว่า 450 ตัวจาก 45 สายพันธุ์ได้ ที่ซุมิดะแห่งนี้
นอกจากตู้ปลาจำลองระบบนิเวศของหมู่เกาะโอกาซาวาระแล้ว ทางอควาเรียมยังได้เพิ่มโซน "Ogasawara Base" จัดแสดงสัตว์น้ำจิ๋วอื่น ๆ ที่อยู่บริเวณชายหาดของเกาะ ซึ่งมีสัตว์ใกล้สูญพันธุ์อย่างเต่าตนุ เรียกได้ว่าการเปิดอควาเรียมแห่งนี้ ไม่เพียงเพื่อสร้างความสนุกสนานให้มนุษย์อย่างเรา ๆ แต่ยังมีส่วนช่วยในการปกป้องเหล่าสัตว์น้ำใกล้สูญพันธุ์หลายชนิดอีกด้วย

ตั้งแต่ปี 2012 พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะได้ร่วมมือกับชุมชนหมู่เกาะโอกาซาวาระ จัดทำโครงการต่าง ๆ เช่น ตู้ปลาขนาดใหญ่ Ogasawara Sea Life ที่เล่าไปด้านบน การอนุรักษ์เต่าทะเลใกล้สูญพันธุ์ แม้กระทั่งการนำขยะพลาสติกที่เก็บได้บริเวณหมู่เกาะมาทำเป็นต่างหูรูปเต่าสุดน่ารัก
หนึ่งในเป้าหมายของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำซุมิดะ คือการสร้างสภาพแวดล้อมที่สบายให้กับเหล่าสัตว์ทะเล และยังมุ่งอนุรักษ์สัตว์ใกล้สูญพันธุ์ด้วย พวกเขาร่วมมือกับ Aqua Design Amano ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างตู้ปลาให้ใกล้เคียงกับระบบนิเวศจริงมากที่สุด โดยใช้พืชพรรณที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นแหล่งออกซิเจนธรรมชาติ และตกแต่งอย่างสวยงาม 

ตู้ปลาเหล่านี้ถูกนำมาจัดแสดงบริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เหมือนเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าไปเจอสัตว์น้ำอื่น ๆ ภายใน
④ พบกับเหล่าเพื่อนของนีโม่และปลาไหลจิ๋วตามแนวปะการัง
แนวปะการังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งเพาะพันธุ์ที่สำคัญของสัตว์ทะเลหลายชนิด อย่างเพื่อน ๆ ของนีโม่ ปลาการ์ตูนและปลาบลูแทงค์ (หรือที่เรารู้จักกันในชื่อปลาดอรี่) นอกจากปลาสองชนิดนี้แล้วก็ยังมีปลาไหลสวน ที่อาศัยอยู่ในกระแสน้ำแรงและซุกตัวอยู่ในทรายลึกลงรอบ ๆ ปะการังอีกด้วย
อีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของที่นี่ คือปลาไหลสวนตัวจิ๋ว ด้วยอุปนิสัยขี้อายอยู่เป็นทุนเดิม เมื่อพิพิธภัณฑ์ต้องปิดตัวลงชั่วคราวจากสถานการณ์การระบาดของโควิด ทางพิพิธภัณฑ์กังวลว่าน้องจะซุกซ่อนตัวกันอยู่ในทราย จึงจัดอีเวนต์ออนไลน์พิเศษ ''Video Call with Garden Eels'' ซึ่งช่วยสร้างสีสันในช่วงที่ทั่วโตเกียวกำลังเครียดกับโรคระบาดได้เป็นอย่างดี
หลังจากสถานการณ์โรคระบาดเริ่มดีขึ้นจนกลับมาเปิดตัวอีกครั้ง เจ้าปลาไหลสวนก็กลับมาทำงานต้อนรับลูกค้าที่มาเยี่ยมชมกันตามปกติ ถึงบางครั้งจะงัวเงีย ไม่ค่อยยอมออกจากโพรงทราย (ตามรูปด้านบน) ในช่วงเช้าบ้างก็ตาม
⑤ หลุดเข้าไปในยุคเอโดะกับเหล่าปลาทอง
เพื่อเพิ่มความเป็นโตเกียวเข้าไปมากขึ้น ที่ซุมิดะจึงจัด “Edo-rium” สำหรับโชว์ปลาทอง ภายใต้การตกแต่งเหมือนได้ย้อนไปในยุคเอโดะ (ชื่อเก่าของโตเกียว) มีจัดแสดงปลาทองกว่า 20 สายพันธุ์ สามารถชมความสวยงามของหางและครีบได้ที่โซนนี้เลย 

นอกจากปลาทองในตู้ หากเราเงยหน้าขึ้นไปจะพบกับโคมไฟปลาทองลอยอยู่เหนือศีรษะ ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในงานเทศกาลญี่ปุ่นอย่างบอกไม่ถูก
แวะสั่งน้ำสักแก้ว ขนมสักก้อน แล้วหาที่นั่งดูเหล่าสัตว์น้ำไปพร้อมกัน
ความน่ารักยังไม่จบ! เพราะที่ Penguin Cafe มีขนมและน้ำมาในธีมสัตว์น้ำสุดแสนจะน่ารัก ทั้งข้าวปั้นรูปเพนกวิน โดนัทแมวน้ำ บลูโซดาตกแต่งด้วยก้อนน้ำแข็งรูปเพนกวินด้านบน หรือโกโก้เย็นประดับด้วยช็อคโกแลตแมวน้ำอ้วนกลมบนวิปครีม เห็นแล้วน่ารักเกินกว่าจะกินลงเลย
พาความสนุกกลับบ้านได้ด้วยการซื้อของที่ระลึกที่ Aquarium Gift Shop
หลังจากเดินดูอควาเรียมมาจนครบทุกโซนแล้ว ร้านขายของที่ระลึกมีสินค้าเก๋ ๆ ให้เลือกซื้อ สามารถนำความสนุกของอควาเรียมกลับบ้านไปด้วยได้ มีตัวเลือกตั้งแต่หมวดอาหารอย่างไดฟูกุรูปสัตว์น้ำ ไปจนถึงหมวดของใช้ในชีวิตประจำวัน 
ตุ๊กตาสัตว์น้ำนานาชนิดแสนน่ารัก พวงกุญแจ หนังสือภาพ และเครื่องเขียน หรือจะซื้อสินค้า original ของอควาเรียมอย่างกระเป๋าผ้า และต่างหูเต่าอะคริลิก รีไซเคิลจากพลาสติกกลับไปก็เก๋ไม่ซ้ำใครเลย

สำหรับใครที่ชื่นชอบงานฝีมือของญี่ปุ่น ที่ร้านยังมีจำหน่ายสินค้า handmade โดยช่างฝีมือมากความสามารถในโตเกียว อย่างเช่น เครื่องแก้วเอโดะคิริโกะ แก้ววาดลวดลายสีสดใส มีต้นกำเนิดในสมัยเอดโดะ หรือตุ๊กตาเพนกวินแกะสลักไม้ ที่ควรค่าแก่การซื้อเก็บ หรือจะซื้อเป็นของฝากก็น่ารักไปหมด
Sumida Aquarium ชีวิตที่อยู่คู่กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ
ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิตที่อยู่คู่กับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ” ที่นี่จึงไม่หยุดที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของเหล่าสัตว์น้ำให้ดีขึ้น และดูแลสิ่งมีชีวิตทุกชนิดด้วยความรัก 

เชิญชวนให้ทุกคนมาสัมผัสลมหายใจของทะเลด้วยตัวเองที่พิพิธภัณฑ์สัตวน้ำซุมิดะ มั่นใจได้เลยว่ายิ่งเข้ามาได้เห็นความน่ารักของเหล่าสัตว์น้ำใกล้ ๆ แล้ว จะยิ่งรักพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำแห่งนี้มากขึ้นไปอีกแน่นอน
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS