สัมผัสกลิ่นอายของปราสาทซามูไรที่เซนได พร้อมแนะนำไฮไลท์ไม่ควรพลาด!

ดาเตะ มาซามูเนะ​ หนึ่งในขุนนางที่เก่งกาจประจำยุคเซ็นโงคุ หรือยุคสงครามกลางเมืองของญี่ปุ่น ได้เข้ามาวางรากฐานเมืองเซนไดราวปี ค.ศ. 1600 เพื่อรวบรวมกำลังของตนเอง และสร้างปราสาทเซนไดขึ้นบนภูเขาอาโอบะ ต่อมาจึงถูกขนานนามและรู้จักโดยทั่วไปในชื่อ "ปราสาทอาโอบะ" ที่แม้จะโดนเสียหายจากการถูกเผาทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง จนเหลือเพียงแค่ร่องรอยทิ้งไว้ในปัจจุบัน แต่ก็สามารถสัมผัสได้ว่าครั้งหนึ่งปราสาทแห่งนี้เคยยิ่งใหญ่และรุ่งเรือง บริเวณโดยรอบพื้นที่ที่เคยเป็นปราสาทจะพบกับรูปปั้นของ ดาเตะ มาซามูเนะ ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองเซนได หรือหากอยากรู้เรื่องราวของปราสาทแห่งนี้มากยิ่งขึ้น ก็สามารถเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ "Aobajyo Honmaru Kaikan" เดินจากบริเวณปราสาทเพียงแค่นาทีเดียวเท่านั้น

เวลาเปิดทำการ:
ช่วงเดือนเมษายน-ตุลาคม 9.00-16.20 น.
ช่วงเดือนพฤศจิกายน - มีนาคม 9.00-15.40 น.
*เปิดให้เข้ารอบสุดท้าย 30 นาทีก่อนเวลาปิด
ค่าเข้าชม 
โซนปราสาท: เดินชมได้ฟรี
โซนพิพิธภัณฑ์: zผู้ใหญ่ 700 เยน / นักเรียนชั้นมัธยม 500 เยน / นักเรียนชั้นประถม300 เยน (นักเรียนประถม)
วิธีการเดินทาง: จากสถานี JR Sendai ขึ้นรถบัส Loople Sendai ลงที่ป้ายหมายเลข 6 ไปยังปราสาทได้เลย 
Google map: Aoba Castle Museum

เมืองเซนได จังหวัดมิยางิขึ้นชื่อว่าเป็นจุดชมวิวยามค่ำคืน 1 ใน 3 ที่สวยที่สุดของญี่ปุ่น สามารถไปชมความสวยของเมืองได้ตามจุดชมวิวต่าง ๆ อย่างเช่น จุดชมวิว Nachigaoka ขึ้น ranking อันดับ 1 ของจุดชมวิวเซนได ประจำปี 2023 เลย

สำหรับการเดินทางในเซนได แน่นอนว่าเราสามารถเดินทางได้ด้วยรถไฟ แต่หากอยากได้บรรยากาศของความย้อนยุค หรืออยากชมวิวในเมืองไปในตัว ก็สามารถใช้บริการรถ Loople (るーぷる仙台 / Loople  Sendai)  ที่วิ่งรอบเมืองก็ได้เช่นกัน
สามารถเช็คตารางและเส้นทางการเดินรถได้ที่ Official Website

ประเภทตั๋วและราคา
ตั๋วเที่ยวเดียว : ผู้ใหญ่ 260 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 130 เยน 
One-day Pass สำหรับรถราง Loople Sendai : ผู้ใหญ่ 630 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 320 เยน 
*ใช้ได้เฉพาะกับรถราง Loople Sendai เท่านั้น ไม่สามารถใช้กับรถโดยสารประจำทางอื่น ๆ ได้
Loople Sendai และรถไฟใต้ดิน : ผู้ใหญ่ 920 เยน เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี 460 เยน 
*ใช้ได้เฉพาะกับรถราง Loople Sendai รถไฟใต้ดินสาย Tozai และ Namboku เท่านั้น

พลาดไม่ได้กับอาหารดังประจำเซนไดอย่าง Gyutan หรือ ลิ้นวัวย่างเตาถ่าน เสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ และผักดอง หรือนำไปทำเป็น Gyutan Donburi ข้าวหน้าลิ้นวัวก็อร่อยไม่แพ้กัน เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่สามารถพบเจอได้ทุกที่ในเซนไดเลยทีเดียว

เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักเทศกาลทานาบาตะ หรือเทศกาลขอพรจากดวงดาวกันมาบ้างแล้ว ซึ่งโดยปกติแล้วเทศกาลนี้จัดขึ้นทุกวันที่ 7 เดือน 7 ของทุกปี แต่ว่าที่เซนไดมีความพิเศษกว่านั้น! คือจัดหลังจากนั้น 1 เดือน หรือก็คือช่วงวันที่ 6-8 สิงหาคม เนื่องจากอ้างอิงตามปฎิทินจันทรคตินั่นเอง ลักษณะเด่นของเทศกาลคือธงหลากสีสันนับพันที่ประดับย่านช้อปปิ้งของเมืองตลอดทาง ธงแต่ละชุดเป็นงานฝีมือโดยร้านค้า โรงเรียน และชุมชนในท้องถิ่น ทำให้เทศกาลนี้เป็นเทศกาลใหญ่ 1 ใน 3 ของภูมิภาคโทโฮกุ

ขอแนะนำ Sendai Dagashi ขนมญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่มีมาตั้งแต่สมัยเอโดะ เป็นธัญพืชเคลือบด้วยน้ำเชื่อมแป้งหรือน้ำตาลทรายแดง อีกทั้งยังมีรูปลักษณ์ที่น่ารัก เรียบง่ายและทานได้แบบพอดีคำเลย 
 

หรือถ้าอยากได้ของฝากแบบยิ่งใหญ่ขึ้นมาหน่อย ขอแนะนำเป็น Date Masayume แบรนด์ข้าวพรีเมียมประจำเซนได อยู่ในแพ็กเกจที่หิ้วกลับง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบข้าวญี่ปุ่น เขาว่ากันว่าข้าวแบรนด์นี้หุงแล้วมีรสหวานและเหนียวนุ่มด้วยนะ