โตเกียว เมก้า อิลลูมิเนชัน (Tokyo Mega Illumination)

ที่ญี่ปุ่นลมหนาวมาแล้ว เตรียมเสื้อกันหนาวให้พร้อม แล้วไปเที่ยวญี่ปุ่นช่วงหน้าหนาวกัน!

สำหรับประเทศไทยที่แม้จะมีหน้าหนาวแต่ก็ร้อนตลอดปี พอถึงช่วงหยุดยาวปลายปีจึงไม่แปลกที่หลาย ๆ คนมองหาที่เที่ยวเพื่อไปสัมผัสลมหนาว และแน่นอนว่าญี่ปุ่นก็เป็นจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของคนไทย 

กิจกรรมที่มาคู่กับช่วงหน้าหนาวคือเทศกาลประดับไฟหรือ Illumination ที่จะทำให้ทั่วทั้งญี่ปุ่นสว่างไสวในยามค่ำคืน ในบรรดาเทศกาลประดับไฟ “โตเกียว เมก้า อิลลูมิเนชัน(Tokyo Mega Illumination)” จัดที่สนามแข่งม้าโออิ(Oi Racecourse) เป็นหนึ่งในงานประดับไฟสุดตระการตา ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับ 1 ในหมวดงานแสดงอิลลูมิเนชันของญี่ปุ่นที่ต้องไปชม 4 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2020 (ผลสำรวจจาก Walker Plus)  สำหรับปีนี้จัดตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 ถึงวันที่ 12 มกราคม 2568 (*จัดทุกวันยกเว้นวันที่มีตารางการแข่งม้า สามารถเช็คได้ที่เว็บไซต์ทางการด้านล่าง)

หากกำลังมองหางานประดับไฟสวย ๆ ไปเดินเล่นดื่มด่ำกับบรรยากาศหน้าหนาว ห้ามพลาดกับงานนี้ เพื่อให้ทุกคนได้สนุกกับงานแสดงไฟมากขึ้น วันนี้ JAPANKURU ขอมาแนะนำจุดไฮไลท์และมุมถ่ายรูปภายในงานเผื่อใครจะไปตามกันค่า

โตเกียว เมก้า อิลลูมิเนชัน (Tokyo Mega Illumination) 2024-2025
สถานที่จัด: สนามแข่งม้าโออิ (Oi Racecourse)
ที่อยู่: 2 Chome-1-2 Katsushima, Shinagawa City, Tokyo 140-0012
วันที่จัด: 2 พฤศจิกายน 2024 – 12 มกราคม 2025 (ตามแผน)
*หยุดวันที่ 4-8 พฤศจิกายน 2024 / 1-6 ธันวาคม 2024 / 25 ธันวาคม 2024-1 มกราคม 2025
เวลาเปิดไฟ: โดยปกติจะเริ่มเปิดตั้งแต่ 16:30-21:00 น. (เข้ารอบสุดท้าย 20:00 น.)
*เวลาทำการอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับตารางแข่งและจำนวนผู้เข้าชม โปรดตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ทางการ
การเดินทาง:
➤สาย Tokyo Monorail มาลงที่สถานี Oi Keibajo-mae จากนั้นเดินต่ออีก 2 นาที
➤สาย Keikyu สถานี Tachikawa เดินต่อประมาณ 12 นาที
ค่าเข้าชม
เว็บไซต์ทางการ 

จุดไฮไลท์ห้ามพลาด

การแสดงไฟกลางแจ้งสุดยิ่งใหญ่ตระการตา

พื้นที่กว้างขวางภายในสนามแข่งม้าถูกนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการจัดแสดงไฟกลางแจ้งขนาดใหญ่ตระการตา สมกับที่ใช้ชื่องานว่าเมก้า อิลลูมิเนชัน สำหรับใครที่ยังไม่รู้จะเริ่มดูจากจัดไหนก่อนดี ขอมาแนะนำจุดไฮไลท์แรก คือบริเวณสนามแข่งที่มีโชว์น้ำพุสีรุ้ง และเพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ จะมีการแสดงโชว์ของเหล่าม้าแข่งด้วย ได้ดูโชว์จากม้าแข่งพร้อมฉากหลังเป็นน้ำพุสีรุ้ง คงจะเป็นประสบการณ์การดูไฟที่น่าจดจำไปตลอดเลย🐎✨

ไม่ไกลจากบริเวณน้ำพุสีรุ้ง มีพื้นที่ “AURORA FOREST” ให้เราได้สัมผัสกับประสบการณ์การชมแสงเหนือใจกลางโตเกียว! แสงไฟหลากสีสันถูกยิงขึ้นบริเวณท้องฟ้าจนเกิดเป็นแสงออโรร่าสวยงาม จากนั้นเดินต่อไปยัง “Twinkle Tunnel East” อุโมงค์ที่ทั้งผนัง เพดาน และพื้นดูจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาด้วยเอฟเฟกต์แสงและเสียงที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา

โชว์น้ำพุและม้าแข่ง
ตารางโชว์: วันเสาร์อาทิตย์ / 24 ธันวาคม / 2-3 มกราคม 
เวลาแสดง：17:20 น. และ 18:20 น.
รายละเอียดเพิ่มเติม

ทิวทัศน์สวนญี่ปุ่นดั้งเดิมที่เต็มไปด้วยประกายแวววาว

หนึ่งในไฮไลท์ของโตเกียว เมก้า อิลลูมิเนชันที่ไม่มีใครเหมือน คือโซน Japanese Original Scenery ที่เนรมิตนาข้าวญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมขึ้นมาด้วยแสงไฟ นอกจากนี้ยังมีโชว์ไฟอยู่เป็นช่วง ๆ สีของไฟในนาข้าวจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากการเปลี่ยนแปลงของสี่ฤดูกาลอีกด้วย

ข้าง ๆ กัน มีอุโมงค์เอโดะซากุระความยาวประมาณ 100 เมตร ประดับด้วยไฟรูปทรงซากุระ ดอกไม้ตัวแทนของญี่ปุ่น ให้เราได้สัมผัสประสบการณ์ชมซากุระรูปแบบใหม่ในฤดูหนาว หากลองมองใกล้ ๆ จะเห็นแต่ละกลีบของดอกซากุระที่สวยไม่แพ้ของจริงเลย

เดินถัดมาอีกหน่อยจะพบกับโซนดอกฟูจิ(หรือดอกวิสทีเรีย)สีม่วงห้อยระย้า ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดออกมาจากอนิเมะ(แต่เราจะปลอดภัย เพราะอสูรกลัวดอกฟูจิ!) รวมถึงโซนป่าไผ่อันเงียบสงบและน้ำตกดิจิตัลขนาดใหญ่ที่ส่องประกาย บอกเลยว่าการจัดแสดงเหล่านี้ได้นำเทคโนโลยีและศิลปะแบบใหม่เข้ามาผสมผสาน ให้เราได้สัมผัสกับประสบการณ์ทิวทัศน์ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสวยงามแปลกใหม่อันยากจะลืมเลือน

จุดถ่ายรูปที่ใคร ๆ ก็ชอบ

แน่นอนว่า Tokyo Mega Illumination มีจุดถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมากทั่วทั้งงาน แต่หนึ่งจุดที่ไม่ว่าใครมาก็ต้องชอบ คือเจ้า Mega Tree ต้นไม้ใหญ่ประดับประดาด้วยแสงไฟอันเป็นแลนมาร์ค ให้ความรู้สึกถึงพลังแห่งชีวิต บริเวณรอบ ๆ Mega Tree ยังถูกล้อมรอบด้วยต้นไม้อีกหลายต้น เมื่อเดินเข้ามาแล้วให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในป่าไม้นางฟ้า นอกจากนี้ยังมีรถม้าให้นั่งถ่ายรูป ซึ่งเข้ากับบรรยากาศการเป็นสนามแข่งม้าได้อย่างดี

เดินออกมาไม่ไกลจาก Mega Tree จะได้พบกับบันไดสายรุ้ง บอกเลยว่าจุดนี้ถ่ายรูปได้หลายมุมสุด ๆ ทั้งมุมใกล้ไกล มาเก็บความเปล่งประกายสว่างไสวไว้ในรูปถ่ายกันเถอะ

ขนมและเครื่องดื่มถูกใจทุกวัย

เดินชมไฟกันแล้วอาจหิวขึ้นมาได้ ภายในงานไม่เพียงแต่จัดแสดงไฟเท่านั้น แต่ยังมีจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มอันเป็นเอกลักษณ์ พบได้แค่ที่ Tokyo Mega Illumination เท่านั้น อย่างชูโรสรูปทรงเกือกม้า หรือเครื่องดื่มในขวดหลอดไฟเรืองแสงวิบวับที่เข้ากับการดูไฟแบบสุด ๆ หรือจะเป็น Marion Crepe เครปเย็นห่อกระดาษใส่ไส้แบบแน่น ๆ เกิดเป็นรสสัมผัสนุ่มฟูที่เด็ก ๆ น่าจะชอบ

สำหรับใครที่อยากทานอาหารแบบจริงจังขึ้นมาหน่อย นอกจากของทานเล่นแล้ว ในร้านยังมีจำหน่ายทั้งแซนด์วิชสเต็กเนื้อ พาสต้า และแกงกะหรี่ ไปจนถึงคราฟต์เบียร์ต้นตำรับ ให้เราได้นั่งดื่มด่ำกับมื้ออาหารสุดพิเศษภายใต้บรรยากาศที่ห้อมล้อมไปด้วยแสงสี

ถ่ายรูปกับน้องม้าตัวจิ๋ว 

ขึ้นชื่อว่าเป็นสนามม้า ก็ต้องมีอีเวนต์เกี่ยวกับม้าซักหน่อย เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นและเปิดประสบการณ์สุดพิเศษในการชมไฟของเรามากยิ่งขึ้น ในงานมีจัดซุ้มให้เราได้ถ่ายรูปคู่กับม้าแคระแสนน่ารักด้วย จุดนี้สามารถถ่ายรูปกับน้องได้ฟรี ๆ เลย (มีพี่สตาฟคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่อันตรายแน่นอนค่า) นอกจากอีเวนต์ถ่ายรูปแล้ว ในช่วงสุดสัปดาห์หรือวันพิเศษบางวัน ทางสนามม้าจะพาเหล่าม้าแคระออกมาโชว์ตัวในทุ่งหญ้าให้เราได้ชื่นชมความน่ารัก

และยังมีสินค้าเกี่ยวกับม้าอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกอมเรืองแสงลายม้า ตุ๊กตาม้าจิ๋ว พวงกุญแจประดับไฟ ผ้าเช็ดหน้า เทปกาว และคุกกี้ จะซื้อมาใช้เป็นพร็อพถ่ายรูประหว่างเดินงาน หรือจะซื้อเป็นของที่ระลึกกลับบ้านก็น่ารักไม่แพ้กันเลย 

รายละเอียดอีเวนต์ม้า

เคล็ดลับเพื่อประสบการณ์ชมไฟที่ดีที่สุด

อ่านมาจนถึงตรงนี้ หลาย ๆ คนคงกำลังวางแผนจะไปแล้ว เรามีเคล็ดลับเล็ก ๆ มาฝากเพื่อให้การไปชมไฟของทุกคนออกมาอย่างราบรื่นที่สุด เรื่องแรกเกี่ยวกับการซื้อตั๋ว จริง ๆ แล้วเราสามารถไปซื้อตั๋วหน้างานได้ แต่หากอยากซื้อตั๋วในราคาประหยัดมากขึ้น แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าผ่านทางเว็บ KKday ราคาจะถูกลงประมาณ 300 เยนเลย

อีกเรื่องสำคัญเกี่ยวกับการเดินทาง สนามม้าโออิเดินทางเข้าถึงง่ายด้วยโมโนแรล และอยู่ห่างจากสนามบินฮาเนดะเพียง 24 นาที สามารถเป็นสถานที่เที่ยวสำหรับวันแรกที่เดินทางมาถึงหรือมาใช้เวลาช่วงสุดท้ายก่อนกลับ รวมถึงฝั่งตรงข้างที่จัดงานยังมีห้างสรรพสินค้า WiRA Oi ให้ได้แวะช้อปปิ้งกินข้าว หรือจะแวะไปพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำชินากาว่า(Shinagawa Aquarium) ที่อยู่ห่างกันเพียง 12 นาทีในช่วงเช้าแล้วมาดูไฟช่วงเย็นก็ได้ อาจทำให้แพลนหนึ่งวันของเราเต็มไปด้วยความสนุกตื่นเต้นยิ่งขึ้น หากมีเวลาก็อย่าลืมเพิ่มสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้เข้าไปในแพลนนะ!

และนี่ก็คือข้อมูลที่เราอยากแนะนำทั้งหมดของโตเกียว เมก้า อิลลูมิเนชัน งานประดับไฟสุดยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่น หวังว่าจะสามารถเป็นข้อมูลอ้างอิงให้กับทุกคนได้ไม่มากก็น้อย ชวนมาดื่มด่ำกับบรรยากาศหน้าหนาวสุดโรแมนติกแฟนตาซีที่โตเกียว เมก้า อิลลูมิเนชันกันเถอะ! 

ติดตามเรื่องราว ข้อมูล และข่าวสารส่งตรงจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง X(Twitter) และ Facebook!