เช็คอิน เรโทร คาเฟ่ (Retro Cafe) 3 ร้านดัง ! เดินทางง่ายผ่านรถไฟสายยามาโนเตะ

Tokyo Food คาเฟ่ 2022.05.09
คาเฟ่มินิมอล คาเฟ่น่ารัก หรือตีมแปลกๆมีให้เห็นทั่วไปในญี่ปุ่น แต่ที่ไม่อยากให้ทุกคนพลาดเลยคือ คาเฟ่เรโทร สไตล์ย้อนยุค ที่หากได้เข้าไปแล้วอาจจะนึกว่าหลงอยู่ในญี่ปุ่นยุคโชวะ นอกจากบรรยากาศดีๆแล้ว อาหารก็เด็ดไม่แพ้กัน ! เจแปนคุรุจะพามาทัวร์ 3 ร้านดัง ที่เดินทางไปได้ง่ายๆผ่านรถไฟสาย ยามาโนเตะ

รักเราไม่เก่าเลย .. เรโทร คาเฟ่ กลับมาฮิตให้หมู่วัยรุ่นญี่ปุ่นอีกครั้ง !

อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าช่วงนี้วัยรุ่นญี่ปุ่นกลับมาฮิตเข้าร้านคาเฟ่ สไตล์เรโทร (Retro Cafe レトロカフェ) กันเยอะมากๆ จริงๆแล้วคาเฟ่หรือร้านกาแฟ เมื่อก่อนภาษาญี่ปุ่นจะใช้คำว่า คิซาเทน (喫茶) ไม่ได้เรียกว่า คาเฟ่ (カフェ) แบบในปัจจุบัน .. ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาร้าน สไตล์เรโทร กลับมาเฉิดฉายอีกครั้ง หากได้เข้าไปในร้านแล้วด้วยบรรยากาศอันเป็นเอกลักษณ์ ของตกแต่งสมัยโชวะ กลิ่นบดกาแฟ และกลิ่นหอมอันอบอวลของแซนวิส อาจจะทำให้ทุกคนหลงรักได้ง่ายๆ

ยุคโชวะ คือช่วงปีค.ศ. 1926 - 1989 และถือเป็นช่วงรัชกาลที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น (62 ปี 14 วัน) ถือเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นได้ประดิษฐ์ พัฒนาสินค้าต่างๆภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เศรษฐกิจถูกพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้ในยุคนี้มีกลิ่นอายของความเป็นยุโรปที่เหมือนถูกปรับเปลื่ยนให้เข้ากับความเป็นญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้ว เห็นได้จากเครื่องใช้ และสิ่งของในชีวิตประจำวันต่างๆ รวมทั้งอาหารการกินด้วย

➡︎ อุเอโนะ / ร้าน คิซาเทน โอโจ (Ojo Coffee 珈琲王城)

คิซาเทน โอโจ ตั้งอยู่หลังห้างสรรพสินค้า มารุอิ ตรงข้ามกับสถานีรถไฟอุเอโนะเลย ถือเป็นร้านที่มีชื่อเสียงโด่งดังมายาวนาน เปิดบริการมา 50 ปี หากย้อนกลับไปเมื่อสมัยที่ผู้คนยังไม่มีโทรศัพท์มือถือ หรือ เครื่องมือสื่อสารอย่างปัจจุบัน ร้าน คิซาเทน โอโจ ถือเป็นจุดนัดพบของผู้คนสมัยนั้น ที่มาพบปะ ดื่มกาแฟ และทานอาหารกัน บรรยากาศภายในร้านยังคงบรรยากาศเดิมไว้ อาจจะมีปรับปรุงใหม่ในบางส่วน แต่ก็ยังถือว่ายังมีความวินเทจอย่างแท้จริง โต๊ะไม้วางคู่ไปกับโซฟาบุพรมลวดลายละเอียด มีโคมไฟดวงใหญ่อยู่กลางร้าน สร้างบรรยากาศอบอุ่น ชวนให้นึกถึงวันเก่าๆ

2-3 ปีมานี้ช่วงที่ทุกคนกลับมาฮิตเรโทร คาเฟ่ ขนมหวานอย่างพาเฟ่ต์ที่ใส่วิปครีมล้นถ้วยของ คิซาเทน โอโจ เป็นที่พูดถึงอย่างมากในออนไลน์ และยังมีอาหารมื้อเบา ของว่างต่างๆอย่างเช่น แซนวิชไข่ และ ขนมปังปิ้งชิ้นหนา ก็ถือเป็นเมนูขายดีของทางร้านที่ลูกค้าทุกคนการันตีว่าดีทั้งรสชาติ และ หน้าตา นอกจากนี้ที่พลาดไม่ได้เลยคือเจ้า ครีมโซดา (クリームソーダ) หรือ ที่เรียกว่า เมล่อนโซดา (เครื่องดื่มหวานๆ เมล่อน โค้ก หรือ กาแฟ โปะด้วย ไอศครีมสวานิลา ด้านบน) ฉบับออริจินอลที่ถือเป็นเมนูตัวแทนแห่งยุคโชวะเลยทีเดียว อีกเมนูที่ถือเป็นซิกเนเจอร์ของร้านคิซาเทน หรือ คาเฟ่สไตล์เรโทร คือ นัปโปริตัน (Naporitan ナポリタン) สปาเก็ตตี้ผัดกับซอสมะเขื่อเทศ ใส่ไส้กรอกและพริกหยวกญี่ปุ่น รสชาติสุดคลาสสิกที่หากมาเยื่อนญี่ปุ่นแล้วอยากให้ทุกคนมาลองให้ได้

เมล่อนโซดาถูกเสิร์ฟมาในแก้วทรงกลมสูง ประดับด้วยเชอร์รี่สีแดงสดตัดกับสีเขียวของน้ำเมล่อน ยิ่งทานควบคู่ไปกับสปาเก็ตตี้ที่เสิร์ฟมาพร้อมผงพาเมซานชีสแล้วละก็ เข้ากันดีมากๆ !
เนื่องจากทำเลที่ตั้งของ คิซาเทน โอโจ อยู่ในย่านที่ผู้คนพลุกพล่านอย่างอุเอโนะ หากมาวันหยุดเสาร์อาทิตย์แล้วละก็อาจจะไม่สามารถเข้าไปใช้บริการได้ทันที ต้องต่อแถวรอคิวที่หน้าร้าน ทางเราแนะนำว่าให้มาวันธรรมดา คิวจะได้ไม่ยาวมาก หรืออาจจะฟลุ๊คเข้าใช้บริการได้ทันที

คิซาเทน โอโจ (Ojo Coffee 珈琲王城)
6-8-15 Ueno, Taito City, Tokyo
เดินจากสถานีรถไฟอุเอโนะ (JR / TokyoMetro) ประมาณ 2 นาที / สถานีรถไฟอุเอโนะ (Keisei Ueno) 3 นาที
เวลาทำการ : 8:00-19:00 น.
ทวิตเตอร์ (ภาษาญี่ปุ่น)

➡︎ ชินจุกุ / ร้าน คิซาเทน ลัมบุรุ (L'ambre Coffee 名曲・珈琲 らんぶる)

คิซาเทน ลัมบุรุ ตั้งอยู่ใกล้ๆกับสถานีรถไฟ ชินจุกุ ซันโจเม (Shinjuku-sanchōme) สามารถเดินมาได้ทั้งจากทาง JR สถานีชินกุจุ หรือจากรถไฟใต้ดิน ชินจุกุ ซันโจเม .. หากเดินเข้าทางหน้าร้านแล้วจะเหมือนร้านกาแฟปกติ แต่หากเข้ามาจะพบกับห้องโถงขนาดใหญ่ เหมือนกับบรรยากาศล็อบบี้ของโรงแรมระดับห้าดาวในยุคก่อนๆ คิซาเทน ลัมบุรุ เปิดบริการในปีค.ศ. 1950 ทำการมามากกว่า 70 ปี ข้าวของเครื่องใช้ยังคงเอกลักษณ์ในยุคเดิมไว้ ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะ เก้าอี้ บันไดไม้ ถือเป็นร้านที่อยู่คู่กับย่านชินจูกุมาเป็นเวลานาน
จริงๆแล้วแซนวิส ขนมปังปิ้ง พาร์เฟ่ต์ และ เค้ก ถือเป็นเมนูขึ้นชื่อของ คิซาเทน ลัมบุรุ ! แต่วันนี้โซเฟีย (สตาฟของร้านเจแปนคุรุ) ในฐานะชาวอเมริกาที่ชอบทาน โซดาโฟลต และ สปาเก็ตตี้เป็นชีวิตจิตใจ ได้สั่ง เมลอนโซดา กับ สปาเก็ตตี้โบโลเนส มาทาน ปรากฎว่าโซเฟียกระซิบหลังจากทานเสร็จว่าควรสั่งเมนูแนะนำของทางร้านตั้งแต่แรกจะดีกว่า .. หากคุณเป็นสายคาเฟ่แล้วละก็การได้มาลองคาเฟ่ สไตล์เรโทรในญี่ปุ่น ก็ถือเป็นความสนุกอีกอย่างหนึ่งในทริปเหมือนกัน

คิซาเทน ลัมบุรุ (L'ambre 名曲・珈琲 らんぶる)
3-31-3 Shinjuku, Shinjuku City, Tokyo
เดินจากสถานีรถไฟ ชินกุจุ ซันโจเม ประมาณ 2 นาที / สถานีรถไฟ ชินจุกุ (JR) 3 นาที
เวลาทำการ : 9:00-18:00 น.
ข้อมูลร้านเพิ่มเติม (ภาษาญี่ปุ่น)

➡︎ ทาคาดะโนะบาบะ / ร้าน คิซาเทน โรมานซ์ (Cafe Roman 喫茶ロマン)

คิซาเทน โรมานซ์ ตั้งอยู่ในย่านที่อยู่อาศัยอย่าง ทาคาดะโนะบาบะ นั่งรถไฟออกมาจากชินกุจุไม่ถึงห้านาที ถือเป็นร้านที่ถูกใช้เป็นฉากในการถ่ายทำละครบ่อยๆ อย่างเรื่อง People Who Do Not Rent ที่แสดงโดย มัสสึดะ ทาคาฮิสะ จากค่ายจอห์นนี่ หรือเป็นสถานที่ถ่ายภาพโฟโต้บุ๊คของ ดาราสาวอย่าง อากิโกะ คิคุจิ .. คิซาเทน โรมานซ์ ตั้งอยู่บนพื้นที่ชั้น 2 เป็นพื้นที่แคบยาวด้วย บรรยากาศเงียบสงบ มีหน้าต่างบานใหญ่เห็นวิวด้านนอกถนน มีทั้งโต๊ะริมหน้าต่างที่บรรยากาศดีสุดๆ และโต๊ะกาแฟแบบธรรมดา
คิซาเทน โรมานซ์ เปิดให้บริการในปีค.ศ. 1969 มีกลิ่นอายและบรรยากาศแบบสบายๆ เหมาะสำหรับเข้ามานั่งชิวจิบกาแฟในวันที่ไม่เร่งรีบ อาหารและเครื่องดื่มของ คิซาเทน โรมานซ์ ถือว่ารสชาติดีทีเดียว หากต้องการที่นั่งริมหน้าต่าง สามารถโทรจองล่วงหน้าได้

คิซาเทน โรมานซ์ (Cafe Roman 名曲・珈琲 らんぶる)
1-18-11 Takadanobaba, Shinjuku City, Tokyo
เดินจากสถานีรถไฟ ทาคาดะโนะบาบะ ประมาณ 1 นาที
เวลาทำการ : 11:30-21:00 น.
Instargram (ภาษาญี่ปุ่น)
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS