สถานที่ท่องเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงใกล้โตเกียว 8 แห่งในจังหวัดโทจิกิ

Kanto Tour โทจิกิ 2021.02.23
ทัวร์ 8 เมืองในโทจิกิ และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีเพียบ!
ทำไมต้องไปโทจิกิตอนฤดูใบไม้ร่วง?
ในญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ร่วงคือช่วงเวลาของใบไม้เปลี่ยสี (โคโย) นอกจากในโตเกียวจะมีจุดให้ชมใบไม้เปลี่ยนสีหลายแห่งแล้ว แต่ยังมีจุดให้ชมแบบที่ไม่ไกลจากโตเกียว โดยนั่งรถไฟชินคันเซ็นเพียงแค่ 1 ชั่วโมงกว่า ก็จะได้มาอยู่ในอีกบริเวณหนึ่งของภูมิภาคคันโตที่มีผู้คนไม่หนาแน่น และวิวธรรมชาติที่สวยงาม เดินเล่นชมประวัติศาสตร์ผ่านดงไผ่ ลองทำกระดาษวาชิด้วยตนเอง เดินเล่นในสวนที่มีแสงไฟระยิบระยับ เป็นความงามของฤดูใบไม้ร่วงญี่ปุ่นที่ต้องไปชมด้วยตาของคุณเอง
1. ชิโมสึเกะ (Shimotsuke (下野市))

สวนเท็นเพียว (Tenpyo Park (天平の丘公園))

สวนเท็นเพียว (สวนเท็นเพียวโนโอกะ) เป็นสวนที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีทั้งทุ่งหญ้าและป่า ที่จะเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล และซากปรักหักพัง ในฤดูใบไม้ผลิ สวนแห่งนี้เป็นจุดชมดอกไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของโทจิกิ เนื่องจากมีดอกซากุระกลีบซ้อนที่จะบานจนถึงช่วงปลายฤดู และในฤดูใบไม้ร่วงทั้งสวนจะเปลี่ยนเป็นสีแดงและเหลือง และยังมีสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ตั้งอยู่ในสวนแห่งนี้อีกด้วย
หลังจากเดินเล่นชมทิวทัศน์ในฤดูใบไม้ร่วง พักสมอง และชิมของว่างที่คาเฟ่ Yoakemae ของสวนสาธารณะซึ่งสร้างขึ้นภายในบ้านไร่โคมินกะที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับกาแฟสดและอาหารที่ปรุงจากวัตถุดิบในท้องถิ่น พร้อมสัมผัสกับความเป็นอยู่ในบ้านแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ด้วยพื้นเสื่อทาทามิและระเบียงที่มองออกไปเห็นต้นไม้
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์และโบราณคดี ไม่ควรพลาดสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางใบไม้เปลี่ยนสี ทั้งสุสานโบราณ "kofun" ที่อยู่รอบ ๆ สวนสาธารณะ Otokazuka Kofun (オトカ塚古墳) และ Kabutozuka Kofun (甲塚 date) โดยมีสิ่งที่หลงเหลืออยู่ของวัดชิโมสึเกะ โคคุบุนจิ (Shimotsuke Kokubunji (下野国分寺跡 )) ถูกสร้างขึ้นในปีเท็นเพียวที่ 13

Tenpyo Park (天平の丘公園)
993-1 Kokubunji, Shimotsuke, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น) | เว็บไซต์ของวัดชิโมสึเกะ (ภาษาญี่ปุ่น)
2. เมืองคานุมะ (Kanuma (鹿沼市))

ศาลเจ้าฟุรุมิเนะ (Furumine Shrine (古峯神社))

คนส่วนใหญ่ในญี่ปุ่นหากได้ยินชื่อของ โทจิกิ จะต้องนึกถึงศาลเจ้าและวัดในนิกโก้ แต่นักบวชโชโดผู้ก่อตั้งวัดและศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงบนยอดเขาได้รับการฝึกอบรมพุทธศาสนาด้วยตนเองที่ศาลเจ้าฟุรุมิเนะ ด้วยเหตุนี้ทำให้บางครั้งศาลเจ้าจึงถูกเรียกว่าบ้านเกิดของนิกโก้

ปัจจุบันผู้คนเดินทางไปที่ศาลเจ้าฟุรุมิเนะจากทั่วประเทศเพื่อสะสมโกชูอินรอบๆเท็นกู โดยมีความเชื่อว่าเป็นสารถึงเทพเจ้าและเป็นสัญลักษณ์ของศาลเจ้า มีการกล่าวกันว่าเท็นกูนั้นจะช่วยปกป้องภัยจากไฟและอุบัติเหตุบนท้องถนนหรือในทะเล และให้โชคลาภอีกด้วย
หากคุณไม่ได้มาที่ศาลเจ้าฟุรุมิเนะเพื่อชมเทนกู ก็สามารถมาที่นี่เพื่อชมทิวทัศน์อันสวยงามของสวนโคโฮเอ็น (古峯園) ในบริเวณศาลเจ้า สวนไคยูชิกิ (廻遊式) มีการออกแบบโดยที่รอบแหล่งน้ำที่ไหลมาจากแม่น้ำโออาชิ ที่ใสสะอาดล้อมรอบด้วยภูเขาหลากสีทำให้เป็นสถานที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับชมความงามของธรรมชาติ


ศาลเจ้าฟุรุมิเนะ (Furumine Shrine (古峯神社))
3027 Kusagyu, Kanuma, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น))

หุบเขาโออาชิ (Oashi Valley (大芦渓谷)) และสะพานชิไรได (Shiraidaira Bridge (白井平橋))

จุดชมใบไม้ร่วงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของคานุมะคือ หุบเขาโออาชิ ที่สามารถเดินเล่นริมน้ำ ขึ้นไปยังต้นน้ำ พร้อมกับชมใบไม้เปลี่ยนสีข้างทาง 
สะพานชิไรไดทอดตัวยาวข้ามแม่น้ำ หากมาในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ก็อาจได้เห็นต้นเมเปิ้ลขนาดใหญ่ที่อยู่ริมสองข้างทางของสะพาน เป็นอุโมงค์ใบไม้แดงที่สวยงาม 

หุบเขาโออาชิ (Oashi Valley (大芦渓谷)) / สะพานชิไรได (Shiraidaira Bridge (白井平橋))
1892 Kusagyu, Kanuma, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
3. เมืองนิกโก้ (Nikko (日光市))

ศาลเจ้านิกโก้ โทโชกุ (Nikko Toshogu Shrine (日光東照宮))

นิกโกเคยเป็นสถานที่ที่ศาลเจ้าชินโตและวัดพุทธผสมผสานกัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานความเชื่อทางจิตวิญญาณที่เป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่นและโครงสร้างทางศาสนาที่ซับซ้อนเหล่านี้เรียกว่า "นิกโกซัง" (日光山) แต่ในปีที่ 4 ของยุคเมจิ (ปีค.ศ. 1868) รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจแยกศาสนาชินโตและพุทธศาสนาออกจากกัน สร้างเป็นนิกโก้ที่เรารู้จักกันในตอนนี้ได้แก่ ศาลเจ้า 2 แห่งคือ ศาลเจ้านิกโกฟุตาระซัง (日興二荒山神社) นิกโกโทโชกุ (日光東照宮) และวัดอีกหนึ่งแห่ง คือ วัดนิกโกซัง รินโนจิ 日光山輪王寺) ชื่อของ นิกโกซัง ปัจจุบันใช้สำหรับวัดในพุทธศาสนา โดยบางครั้งเรียกอาคารทั้งหมดว่า นิฉะอิจิจิ (二社一寺) หมายถึง "สองศาลเจ้าหนึ่งวัด"

ในบรรดาศาลเจ้าและวัดทั้งสามแห่งนี้ นิกโกโทโชกุเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงที่สุด ในฐานะสถานที่พักผ่อนของโทคุกาวะอิเอยาสุ และยังได้รับเลือกให้เป็นมรดกโลก โดยองค์การยูเนสโก ซึ่งศาลเจ้าที่ได้รับการตกแต่งอย่างสวยงามเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแรก ๆ ที่ผู้คนนึกถึงเมื่อนึกถึงโทจิงิ

วัดนิกโกซัง รินโนจิ (Nikkozan Rinnoji Temple (日光山輪王寺))

สุสานของโชกุนโทกุกาวะ อิเอยาสุ ถูกสร้างขึ้นใกล้กับไทยูอิน (Taiyuin (大猷院)) ในวัดนิกโกซัง รินโนจิ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นต้นไม้ขนาดสูงใหญ่รอบๆวัด ที่จะโดดเด่นเป็นพิเศษในฤดูใบไม้ร่วง รวมทั้งตัวอาคารที่เป็นสถาปัตยกรรมในแบบญี่ปุ่น เราจะได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบ Gongen-zukuri (権現造り) ของอาคารอื่นๆมาก่อนแล้ว แต่รูปทรงของไทยูอิน ถือเป็นเวอร์ชั่นที่เสร็จสมบูรณ์ของสถาปัตยกรรมคลาสสิกนี้

สะพานชินเคียว Shinkyo Bridge (神橋)

สะพานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของศาลเจ้าฟุตะระซัง ที่สร้างขึ้นในสมัยเอโดะ (1603-1868) ในปัจจุบันนับเป็นสะพานที่แปลกที่สุด 1 ใน 3 แห่งของญี่ปุ่น แม้จะถูกล้อมรอบด้วยใบไม้ร่วงสีแดงและสีเหลือง แต่สีแดงสดของสะพานก็ทำให้โดดเด่นจากฉากหลังตามธรรมชาติและเป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก


Nikko's Shrines and Temples (日光二社一寺)
Sannai, Nikko, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
4. เมืองโอตาวาระ (Otawara (大田原市))

วัดไดโอจิ (Daioji Temple (大雄寺))

วัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในเจ็ดแห่งในญี่ปุ่น ที่ได้รับการยอมรับให้เป็นทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่สำคัญ เนื่องจากอาคารวัดที่มีหลังคามุงจากที่มีความปราณีต เป็นชั้นหนา ระหว่างความสวยงามของสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมและใบไม้เปลี่ยนสีของสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ จึงเป็นจุดที่มีบรรยากาศอันเงียบสงบเป็นเอกลักษณ์
หลังจากเดินเล่นบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยตะไคร่น้ำในสวนอันเงียบสงบแล้ว มาคลายความเครียดจากการเดินทาง ด้วยการทำสมาธิแบบเซนเงียบ ๆ ในวัด ทำจิตใจให้สบาย ฟังเสียงธรรมชาติ และอยู่กับตัวเอง

วัดไดโอจิ (Daioji Temple (大雄寺))
450 Kurobanetamachi, Otawara, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
5. เมืองอาชิคากะ (Ashikaga (足利市))

Ashikaga School (足利学校)

โรงเรียนอาชิคากะ หรืออาชิคากะกักโค เป็นโรงเรียนที่เก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่น และในจังหวัดโทจิกิ โดยสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อ 1,000 ปีก่อน เมื่อพระสงฆ์เข้ามาในสถานที่เพื่อศึกษาวรรณคดี วิทยาศาสตร์ วิชาลึกลับ และผลงานของขงจื้อ อาคารปัจจุบันได้รับการบูรณะให้กลับมารุ่งเรืองในยุคเอโดะ รวมถึงหลังคามุงจาก ภายในคุณจะเห็นว่าชีวิตในโรงเรียนเป็นอย่างไรในสมัยนั้น 

Ashikaga School (足利学校)
2338 Shoheicho, Ashikaga, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

สวนดอกไม้อาชิคากะ (Ashikaga Flower Park (あしかがフラワーパーク))

โตเกียวอาจจะมีพื้นที่แสดงไฟประดับไม่มากสักเท่าไร แต่สวนดอกไม้อาชิคางะทำให้ที่นี่เป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนเลือกมาเที่ยว เพราะที่นี่เป็นสวนพฤกษศาสตร์หรือสวนดอกไม้แห่งแรก ที่มีการประดับไฟ พร้อมกับดอกไม้ที่สวยงามและไม่เหมือนใคร
ดอกวิสทีเรียสุดโรแมนติก และไฟสีม่วง ห้อยเหมือนเถาวัลย์ของดอกวิสทีเรีย ราวกับภาพจากหนังสือ (คล้ายกับเรื่องดาบพิฆาตอสูร) ด้วยบรรยากาศที่ราวกับต้องมนต์ ที่คุณต้องมาสัมผัสด้วยตาของคุณเอง

สวนดอกไม้อาชิคากะ (Ashikaga Flower Park (あしかがフラワーパーク))
Hasamacho, Ashikaga, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
6. เมืองซาโนะ (Sano (佐野市))

Hikoma Washi Paper Center (飛駒和紙会館)

เมืองซาโนะขึ้นชื่อเรื่องราเมงท้องถิ่น รวมทั้งเราอยากแนะนำให้คุณได้ลองเวิร์คช็อปทำกระดาษวาชิ ที่ Hikoma Washi Paper Center ที่ที่คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการทำกระดาษสาแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่เปลือกของต้นหม่อน "โคโซะ" ที่ปลูกอยู่ด้านนอก โดยใช้น้ำสะอาจของเมืองซาโนะ ไปจนถึงการประดิษฐ์แผ่นกระดาษวาชิ

Hikoma Washi Paper Center (飛駒和紙会館)
2299 Hikomacho, Sano, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
7. เมืองอุสึโนมิยะ (Utsunomiya (宇都宮市))

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์โอยะ (Oya History Museum (大谷資料館))

หินโอยะครั้งหนึ่งเคยถูกขุดขึ้นมาจากถ้ำใต้ดินอันกว้างใหญ่ เป็นผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของเมืองอุสึโนะมิยะ  ชาวบ้านได้ทำการขุดมาแล้วอย่างน้อย 1,400 ปี ซึ่งหลังจากผ่านไปกว่าพันปีของหินโอยะ ที่ถูกแกะสลักจากพื้นดินของถ้ำได้ขยายเป็น 20,000m²  และเดินลงไปใต้ดิน 30 เมตร ให้ความรู้สึกเหมือนเข้าสู่อีกโลก แต่ก็จะมีป้ายบนผนังจะที่บอกว่าคุณอยู่ที่ไหน รวมทั้งข้อมูลทางประวัติศาสตร์และข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับถ้ำ
อุณหภูมิเฉลี่ยในถ้ำตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 7 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ภายในถ้ำยังมีบรรยากาศที่สวยงาม ทำให้เป็นโลเคชั่นสำหรบการถ่ายทำมิวสิควิดีโอและจัดไลฟ์คอนเสิร์ตหลยรายการ 

พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสต์โอยะ (Oya History Museum (大谷資料館))
909 Oyamachi, Utsunomiya, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)

ป่าไผ่วากายาม่า (Wakayama Farm Bamboo Forest (若山農場))

จุดแวะสุดท้ายของเราในอุสึโนะมิยะให้ความรู้สึกเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่ง เกษตรกรสามเจนเนอเรชั่นทำงานอยู่ที่ฟาร์มวากายามะ และได้ปลูกต้นไผ่มาตลอด 100 ปีที่ผ่านมา โดยใช้ประโยชน์จากสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่เหมาะสมของอุสึโนะมิยะ ที่จะมีหน่อไม้จะแตกกอได้เต็มที่ในเวลาเพียงสองสามเดือน ต้นไผ่เจริญเติบโตและฟาร์ม Wakayama เริ่มมีการขยับขยายมากขึ้นเรื่อย ๆ มีหลายพันธุ์ แม้แต่บางพันธุ์ที่ค่อนข้างหายาก
อย่าปล่อยให้สภาพอากาศแปรปรวนมาทำให้คุณท้อใจ  ฟาร์มวากายามะดูสวยงามทั้งท่ามกลางสายฝนและหิมะ ทำให้ช่างภาพบางคนถึงกับแห่กันไปที่ป่าเพื่อดูไม้ไผ่ที่ปกคลุมด้วยเกล็ดหิมะสีขาว นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์และโฆษณายอดนิยมอีกด้วย วันไหนที่อากาศดีก็มักจะเห็นคนแต่งชุดคอสเพลย์มาถ่ายรูปท่ามกลางต้นไผ่

Wakayama Farm (若山農場)
2018 Takaragihoncho, Utsunomiya, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
8. เมืองมิบุ (Mibu (壬生町))

สวนโทจิกิวันพะคุ (Tochigi Wanpaku Park (とちぎわんぱく公園))

เมื่อผ่านเข้าไปยังผืนป่าขนาดใหญ่ บริเวณทางเข้าสวนโทจิกิวันพะคุ ก็จะพบกับทุ่งหญ้า สวนดอกไม้ สนามเด็กเล่น มาสคอตที่ออกแบบโดยสตูดิโอจิบลิ และโมโมะจัง ไดโนเสาร์ที่รอต้อนรับทุกคนอยู่!

พิพิธภัณฑ์ของเล่นมิบุมาจิ (Mibumachi Toy Museum (壬生町おもちゃ博物館))

พิพิธภัณฑ์ของเล่นมิบุมาจิซ่อนตัวอยู่ภายในสวนสาธารณะ ภายในพิพิธภัณฑ์มีทั้งของเล่นทั้งเก่าและใหม่จากหลายแห่ง มีห้องของเล่นที่คุณสามารถเล่นได้ ห้องของเล่นท้องถิ่นที่ผลิตในโทจิกิ และการจัดแสดงตัวละครสุดฮิต (โปเกมอน กันดั้ม มาริโอ้ ก็มีให้ชมกันที่นี่) เป็นสถานที่ที่ทำให้ผู้ใหญ่ได้หวนคิดถึงวัยเด็ก สำหรับเด็กจะเป็นที่ที่ได้เติมเต็มความฝันของพวกเขา 

Tochigi Wanpaku Park (栃木わんぱく公園) / Mibumachi Toy Museum (壬生町おもちゃ博物館)
2273/2300 Kuniya, Mibu, Shimotsuga District, Tochigi
เว็บไซต์ Wanpaku Park
เว็บไซต์ Toy Museum Website

มิจิโนะเอกิ มิบุ (Michi-no-Eki Mibu (道の駅みぶ))

ก่อนกลับจากโทจิกิอย่าลืมแวะที่จุดพักเล็ก ๆ แห่งนี้  เพราะร้านค้าที่ Michi-no-Eki Mibu ขายของที่ระลึกทุกชนิด รวมทั้งผลไม้สดในท้องถิ่น และผลิตผลหลากชนิดจากจังหวัดโทจิกิ และแน่นอนว่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงที่สุดของโทจิกิคือ สตรอเบอร์รี่ จึงมีไอศกรีมสตรอเบอร์รี่ และขนมหวานหลายอย่างที่ทำจากสตรอเบอร์รี่ 

Michi-no-Eki Mibu (道の駅みぶ)
1870-2 Kuniya, Mibu, Shimotsuga District, Tochigi
เว็บไซต์ (ภาษาญี่ปุ่น)
ทริปฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า ไปโทจิกิกัน!
สวนสาธารณะขนาดใหญ่ บ้านญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม สวนอันหรูหรา และแหล่งมรดกโลก วัดที่ช่วยเยียวยาจิตใจ งานประดับไฟ  การทำกระดาษวาชิ โลกใหม่ใต้ดิน และต้นไผ่ และสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว การไปเที่ยวโทจิกิในฤดูใบไม้ร่วงนั้นมีสถานที่ให้ท่องเที่ยวมากมาย และอยู่ไม่ไกลจากโตเกียว จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการพักผ่อนครั้งต่อไปของคุณ

อย่าลืมติดตามเราได้ที่ twitter และ facebook
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS