Aizumura สวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่ Aizu ทางตอนเหนือของญี่ปุ่น
และกลายเป็นความลับของคอสเพลย์เยอร์หายๆคนในญี่ปุ่น
เพราะนักท่องเที่ยวส่วนมากอาจจะมาแค่ โตเกียว เกียวโต โอซาก้า แต่พลาด
ธรรมชาติและประวัติศาสตร์ที่สวยงามทางตอนเหนืออย่าง Aizu ไป
ที่นี่มีทั้งวิวธรรมชาติเขียวขจี สถาปัตโบราณ ตลาดท้องถิ่น
และที่ถ่ายรูปสุดเจ๋ง มาลองอ่านบทความแล้วไปลองเที่ยว Aizu ดูกันเถอะ!

มาแต่งคอสเพลย์

(หรือแค่เที่ยวสนุกๆใน Aizumura !)

ถ้าชอบคอสเพลย์ หรือแค่อยากแต่งชุดสวยๆมาถ่ายรูป
แค่มีวิวหลักล้านก็สามารถทำให้ได้รูปสวยๆแล้ว!
และการได้มาซึ่งวิวสวยๆ ไปตามหาในเมืองก็คงยาก
หรือถึงหาได้ก็คงติดคนเยอะแยะ

แต่ที่ Aizumura คุณจะพบกับวิวสวยๆบนทุ่งหญ้า
กับสถาปัตญี่ปุ่น พร้อมห้องเปลี่ยนชุดให้คุณได้ถ่ายรูปเต็มที่

เพราะฉะนั้นเตรียมชุดและกล้อง เราจะมาโชว์ความสวย
ของที่นี่ และรูปที่ถ่ายให้คุณได้ชมกัน!!

Aizumura เราขอแนะนำ!

สำหรับการออกมาคอสเพลย์รอบนี้ เราเลือกที่จะคอสเป็นคาโกเมะกับคิเคียว (อินุยาฉะ)
เหมือนกันแบบฝาแฝดเลย! สองสาวเนี่ย

ถ้าเราหาคนคอสเป็นอินุยาฉะได้ก็จะได้รักสามเศร้าเราสามคนแล้ว
ไว้ครั้งหน้าละกันนะ เราวางแผนจะไป Aizumura อีกรอบไว้แล้วล่ะ!

Ote-mon Gate (大手門)

สร้างขึ้นเพื่อจำลองกำแพงปราสาทNijoของเกียวโต เป็นทางเข้าของ Aizumura
เมื่อเข้าไปคุณก็จะพบกับสวนญี่ปุ่น และบ้านโบราณที่ไม่มีวิวของตึกสูงมาทำร้าย
แบบในเมืองใหญ่อย่างเกียวโตและโตเกียว

บ่อน้ำ Ryuujin Ike (龍神池)

เวลาคิดถึงภาพเมืองญี่ปุ่นเก่าๆนี่ ก็ต้องมีภาพสะพานสีแดงข้ามบ่อน้ำ
และปลาคาร์ฟหิวโหยที่ว่ายเล่น คู่รักเดินข้ามสะพาน นักปราชญ์
นั่งริมบ่อสังสรรค์กัน หรือภาพอื่นๆแล้วแต่คุณจะคิดเลย!

นอกจากนี้จุดนี้ยังเป็น Power Spot ด้วยนะ เป็นจุดรวมพลังงานตามธรรมชาติ
 Aizumura มีจุดรวมพลังมากมาย แต่จุดที่โดดเด่นคือตรงบ่อน้ำนี้ เป็นจุดที่
เชื่อมกับเทพแห่งน้ำ ซึ่งว่ากันว่าถ้าขอฝนตรงจุดนี้จะช่วยพัดพาความทุกข์ไป
แต่ฝนจะไม่ตกจนกว่าคุณจะเที่ยวเสร็จนะ!

Zaougongen Hall (蔵王権現堂)

ที่นี่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพ Zaougongen ที่คอยช่วยดูแล Aizumura
ด้วยสถาปัตไม้เก่าแก่ สามารถเดินชมได้ทั่ว และถ่ายรูสวยๆได้เลย!

น้ำตก Kannon (観音滝)

สูง 5 เมตรถึงแม้จะไม่ได้สูงมาก แต่สายน้ำสวยๆก็ช่วยให้ที่นี่มีเอกลักษณ์
ลองนั่งแช่เท้าและชมธรรมชาติ ถ่ายรูปกับเพื่อน ที่นี่มีประจุลบ
ที่จะช่วยให้พลังงานบวกกับร่างกาย แต่ไม่ว่าจะจ้อจี้หรือไม่
แค่มองก้อนหินรูปหัวใจ สายน้ำก็ผ่อนคลายแล้ว
(คนส่วนมากชอบมาขอพรด้านความรักกันที่นี่นะ!)

พระพุทธรูปนอน (涅槃像)

ก่อนถ่ายรูป เราได้สอบถามทางพนง.Aizumura แล้วว่าเราจะโพสต์แบบนี้ได้มั้ย
มันจะเป็นการไม่เคารพหรือเปล่า แต่ว่าสต๊าฟบอกว่าโอเค

เหมือนว่าหลายๆคนที่เป็นนักท่องเที่ยวมักจะชอบโพสต์กันแบบนี้
แต่เราๆชาวพุทธก็อาจจะไม่ค่อยถูกใจเท่าไร แต่ว่าคนที่Aizu เขารับได้นะ!

บ้านเก่าสไตล์ญี่ปุ่น (古民家)

บ้านแบบนี้คนญี่ปุ่นจะเรียกว่า kominka (古民家)
เดิมทีหลังนี้ตั้งอยู่โซนอื่นใน Aizu แต่ว่าถูกย้ายมาตั้งไว้ในส่วนสวยๆแห่งนี้ทีหลัง

Aizumura มีอาคารอยู่ 4 แห่ง มีคอกม้า โซนอยู่อาศัย ที่ถูกสร้างต่อกันด้วยโครงสร้างเดียว
แม้จะไม่มีม้าอยู่แล้ว แต่ว่าภายในบ้านสามารถเข้าไปถ่ายได้เต็มที่เลยนะ
ทั้งเสื่อทาทามิ ประตูกระดาษ และแสงธรรมชาติต่างๆก็เป็นฉากชั้นดี

เจดีย์3ชั้น (三重ノ塔)

เจดีย์นี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อ Kishimojin เป็นเรื่องราวของเทพ/ปีศาจ
ที่มีลูกกว่า 500 คน แต่การเลี้ยงดูเด็กๆจะต้องใช้เด็กมนุษย์ทำให้เธอ
หยุดเป็นปีศาจแล้วสาบานจะปกป้องเด็กและลงโทษพ่อแม่ที่ไม่ดี
ทำให้เจดีย์นี้กลายเป็นสุดยอดฉากหลังสูงเสียดฟ้า

Little Fushimi Inari Shrine (伏見稲荷会津分社)

Aizumura ส่วนมากเป็นสถาปัตยกรรมทางพุทธ แต่ญี่ปุ่นเป็นประเทศหลายศาสนา
ทำให้มีทั้ง พุทธ ชินโต และความเชื่อท้องถิ่นอีกมากมาย
ทำให้มีเสาโทริอิแบบนี้เกิดขึ้นยังไงล่ะ!

คงเคยได้ยินเกี่ยวกับ  Fushimi Inari ใช่มั้ย ที่เกียวโตจะเจอเสาอินาริแบบนี้แต่ใหญ่กว่ามาก
ที่ Aizumura ไม่ได้มีเสามากมายเป็นพันต้น แต่ว่าก็ยังเป็นจุดถ่ายรูปที่น่าทึ่งอยู่ดี
เสานี้เกี่ยวข้องกับจิ้งจอกนะ เลยจะได้เห็นรูปปั้นจิ้งจอกเยอะแยะเต็มไปหมด

วัดหลัก

ลองมาฝึกเขียนพู่กันกันดูดีมั้ย? วัดหลักของ Aizumura มีการสอนเขียนพู่กัน
เป็นคำอวยพรเล็กๆบนกระดาษแผ่นใหญ่ หลังจากนั้นพระผู้ดูแลจะใส่คำสวดลงไป
อาจจะฟังดูยากหน่อยสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ไม่ต้องห่วง เพราะจะมีตัวอย่างให้ดู
แล้วเขียนตาม (พรมีทั้ง เกรดดี เลื่อนขั้น ขอคู่) จะคอสมาเขียนก็ได้นะ!

รูปปั้นพระแม่กวนอิม (会津慈母大観音像) – อัญมณีแห่ง Aizumura

นี่อาจจะเป็นจุดที่โดดเด่นที่สุดของ Aizumura เลย
ด้วยรูปปั้น Aizu Jibo Kannon (พระแม่กวนอิม)
เป็น Power spot ที่ใหญ่ที่สุด

โดยตัวพระแม่กวนอิมสูงถึง 57 เมตร
และสามารถเดินขึ้นบันไดไปชมบนฐานได้ด้วย

อาจจะยากสักหน่อยกับการถ่ายให้เห็นพระแม่กวนอิมเต็มตัว
แต่ว่าถ้าถ่ายให้ติดเป็นฉากสวยๆล่ะก็ทำได้แน่นอน

เพราะรูปปั้นใหญ่มากๆจนไม่ว่าจะถ่าย
จากมุมไหนของเมืองก็จะมีท่านติดมาด้วยเสมอ

ที่ฐานรูปปั้นจะมีกระดาน(Ema)ไว้ขอพรอยู่ เขียนคำขอ
แล้วนำไปแขวนใกล้ๆอินาริ นอกจากจะสมหวังแล้ว จิ้งจอกไม้ยังน่ารัก

เอาล่ะเท่านี้เราก็พาทัวร์ทั่วจุดถ่ายรูปของAizumuraแล้ว ถ้าคุณมีเวลาจะลองหาจุดลับๆ
อื่นๆตามตึกตามอาคารเพิ่มดูก็ได้ ถ้าเป็นสายถ่ายรูปน่าจะชอบที่นี่กันนะ
(จะโพสต์ยังไง? จะถ่ายที่ไหน? ใส่อะไรดี?)

พักกลางวัน อาหารดีๆที่ Aizumura!!

หลังจากเดินเที่ยวทั้งเช้า ก็ต้องมาเติมพลังงาน
ใกล้กับสวนจะมีร้านอาหารน่าไปอยู่ ชื่อว่า Jumonjiya
ที่มีอาหารท้องถิ่นให้ได้ลองทานกัน!

อะไรคืออาหารดังของ Aizu ? คัตซึด้งราดซอสยังไงล่ะ!
เนื้อหมูทอดที่เต็มไปด้วยความอร่อย ราดด้วยซอสสูตรเด็ด
วางบนข้าวสวยและกระหล่าปลีสดๆที่จะทำให้อิ่มท้อง
พร้อมไปถ่ายรูปต่อได้อย่างรวดเร็ว!

ถ้าชอบเส้น ทางร้านก็มี Kitakata ramen
1 ใน 3 ราเมนที่ดังที่สุดของญี่ปุ่น (ร่วมกับราเมน Hakata และ Sapporo)

ที่ร้าน Jumonjiya ก็ทำขายในแบบของตัวเองด้วย
ราเมนของร้านนี้จานใหญ่มากและน้ำซุปก็ข้นกว่าราเมน Kitakata ทั่วไป
เป็นซุปหมูน้ำใสรสโชยุ เส้นหนานุ่ม ใส่หน่อไม้ หอยเชลล์ เห็ดหูหนู
แครอท กะหล่ำ ไข่ต้มและหมูตุ๋น ที่ให้รสชาติดีเข้ากันมาก

เราแนะนำให้คุณค้างที่เมืองนี้ และไปต่อที่ทางเหนือของKitakata ในวันต่อมา
เพื่อไปลองทานราเมน Kitakata ที่ถิ่นเดิมแท้ๆแบบเรา

ถ้าให้เปรียบเทียบราเมนของร้าน Jumonjiya กับที่ Kitakata
จะเห็นว่ารสชาติดีเหมือนกันแต่ว่ามีความต่าง ราเมน Kitakata ที่เรากิน
เราไปกินที่ร้าน Bannai Shokudo ที่เปิดมาตั้งแต่ 1950 เต็มไปด้วยคนต่อคิว
ที่รอมากินราเมนรสเด็ด นอกจากนี้ร้านนี้ยังมีสาขามากมายในญี่ปุ่นรวมถึงอเมริกาด้วย

Bannai Shokudo (ร้านหลักของราเมน Kitakata)
7230 Hosoda, Kitakata, Fukushima
7:00 ~ 18:00 (ปิดวันพฤหัสบดี)
0241-22-0351
Official Website

ตามหาความงามของ Aizu

ยังมีเวลาเหลือ เราจะพาคุณไปเที่ยวต่อรอบๆ Aizumura
ดูวิวสวยๆของภูเขา Bandai (ภูเขาไฟ) ที่เชื่อมกับทุ่งนากว้างๆสิ
ลองพักที่นี่สักคืน ไปกินราเมน Kitakata แล้วเดินทางกันต่อเถอะ!
 

Goshiki-numa บึง 5 สี (五色沼)

เกิดจากภูเขา Bandai ระเบิดในอดีตทำให้เกิดบึงมากมาย 
เรียกว่า "numa" (沼) ในภาษาญี่ปุ่น ที่นี่ดังเรื่องน้ำสีเขียวไล่สี
ส่วนมากจะมาพายเรือหรือเดินชมความงามของมันกัน

Bishamon-numa (毘沙門沼)

บึงใหญ่ที่สุดใน Goshiki-numa แถมยังมีภูเขา Bandai
ตั้งตระหง่านอยู่ข้างหลังด้วย หลงจากเดินไปตามทางหิน คุณจะเจอ..
 

เรือ! ลองพายเรือไปกลางทะเลสาบ จะพบว่าน้ำใสจนน่าแปลกใจ
นอกจากจะมีวิวกิ่งไม้สวยๆ ที่ Bishamon-numa ยังมีปลาอย่าง
 "Goshikinuma Heart Koi" ปลาคาร์ฟสีขาวที่มีลายหัวใจสีส้ม
ว่ากันว่าถ้าเจอปลาชนิดนี้แล้วจะโชคดีล่ะ!

Bishamon-numa Rowboats
8:00 ~ 16:30 (ปิด ธ.ค.-มี.ค)
700 เยน/30 นาที หรือ 1,300 เยน/1 ชม.

บึงเล็กๆ ส่วนอื่นจะเจอได้ตามทางขึ้นเขา และตามทางในป่า
ด้วยพื้นน้ำใสอันเป็นเอกลักษณ์ทำให้ Ao-numa (青沼)
และRuri-numa (るり沼) เป็นบึงยอดนิยม

แต่ก็อย่าลืมไปดู Haha-numa (母沼) และ Yanagi-numa (柳沼)
ใกล้ขึ้นไปจากบึง Ruri-numa ก็จะเจอบึงดังอย่าง Benten-numa (弁天沼)อีกด้วยนะ!

อย่าลืมพกกระดิ่งหมีไปด้วยนะ (bear bell)
ถึงจะมีนักท่องเที่ยวเดินกันเยอะแต่แถวนี้ก็ยังคงมีหมีอยู่
สามารถยืมได้ที่จุดพักตั้งแต่เริ่มเดิน เพื่อความปลอดภัยนะ!

Tsuruga Castle (鶴ヶ城)

หลังจากเดินชมบึงกันจนพอใจแล้ว ก็ไปต่อกันที่ปราสาท Tsuruga 
ที่ถูกเปลี่ยนให้เป็นพิพิทธภัณฑ์ มีตั้งแต่จำลองของเท่าคนจริง 
หมวกรบ บรรยายการสู้ของซามูไรและสงครามบริเวณนั้น
ตั้งแต่ปี 1300 ไปจนถึงปี 2011 ที่ที่นี่ถูกรีโนเวท
(ป้ายกว่า 75 % มีภาษาอังกฤษ) รับรองว่าได้ความรู้แน่นอน

หลังจากได้ความรู้ อย่าลืมขึ้นไปชั้นบนสุด เพื่อดูวิวจากปราสาท
ที่เห็นวิวไกลจนถึงพระแม่กวนอิมกันเลยทีเดียว!

โรงชาและสวน Rinkaku

ลองเข้าพิธีชงชาแบบญี่ปุ่น ที่โรงชาRinkakuในปราสาท Tsuruga
เรียนรู้ประวัติศาสตร์โรงชาที่ตั้งมาตั้งแต่ปี 1500 และยังคงสืบทอดมา
การชงชามานานกว่า 120 ปี ในปราสาทแห่งนี้

นอกจากนี้ยังนั่งดื่มชาแบบญี่ปุ่นได้ที่สวย (หรือใต้ร่มถ้าอากาศไม่ดี)
มีทั้งมัจฉะร้อนเย็น รวมถึงขนมญี่ปุ่นอย่างมันจูมันหวาน
(ในราคารวม 600 เยน) แต่เป็นโอกาศดีที่จะได้นั่งพักและ
ดื่มด่ำไปกับบรรยากาศแบบเซ็น

ถ้ามันหวานไม่ถูกใจคุณ ร้านขนมนอกปราสาทก็มีเมนูท้องถิ่นน่าลองนะ
อย่าง เทมปุระมันจูราดน้ำตาลทรายแดง (มันจูไส้ถั่วแดงทอดแป้งเทมปุระ)
โดยขนมจะมาในรูปแบบเสียบไม้ ราดด้วยโชยุ ที่มีรสเข้ากันทั้งหวานทั้งเค็ม

โชว์แสงสีตอนกลางคืนบนปราสาท

ก่อนจะจบทริปนี้บนกำแพงปราสาท Tsuruga จะมีการจัดแสดงไฟ
ในตอนกลางคืนเป็นรูปดอกไม้ต่างๆประดับบนกำแพง
 

ลาก่อน Aizu!

Aizumura เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการถ่ายรูป
ที่มีทั้งฉากในและนอกที่แสนสวย นอกจากนี้บรรยากาศยังดี
เหมาะสำหรับไปเที่ยว 2-2วันเพื่อผ่อนคลายจิตใจ

ไม่ว่าจะอยากไปคอสไสตล์ญี่ปุ่นหรือไปเที่ยวชมธรรมชาติ
อย่ามัวแต่เพลินไปกับเกียวโต-โตเกียว ยังมีที่อื่นรอคุณอยู่ในญี่ปุ่นนะ!

อยากเที่ยวตอนเหนือของญี่ปุ่นเหรอ? 
มาแชร์ประสบการ์ณดีๆกันเถอะที่ twitter, instagram, และ facebook!