รักษ์โลกกับมูจิด้วยเซมเบ้จิ้งหรีด!

มนุษย์กินแมลงเป็นอาหารมานานแล้ว และเป็นวัฒนธรรมการกินของหลายที่อีกด้วย เพราะเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณประโยชน์มากมาย แม้นักวิทยาศาสตร์จะต้องเผชิญกับปัญหาภาวะโลกร้อน และความมั่นคงด้านอาหาร นี่อาจเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่จะช่วยในเรื่องนี้ได้

สำหรับคนไทยแล้วการกินแมลงถือไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะเรามีทั้งรถด่วน ตั๊กแตนทอด จิ้งหรีดทอด สารพัดแมลงที่จะสรรหามาได้ แต่จะเป็นอย่างไรหากมูจิ แบรนด์ขายของใช้ในบ้าน เสื้อผ้า และอาหารสไตล์มินิมอลของญี่ป่น ที่คนไทยหลายคนชื่นชอบจะทำขนมที่มีจิ้งหรีดเป็นส่วนผสม

บนเว็บไซต์ของมูจิได้ตั้งคำถามไว้ว่า จิ้งหรีดจะช่วยรักษ์โลกได้หรือไม่ ทำให้เราเดาได้ว่า มูจินั้นจะมีสินค้าใหม่ที่มีจิ้งหรีดเป็นส่วนผสม

ทำไมการกินแมลงจึงเป็นเรื่องดี แล้วอาหารที่เรากินอยู่ในปัจจุบันมันไม่ดีตรงไหน มูจิได้บอกว่า ในปี 2050 ประชากรโลกจะมีจำนวนถึง 1 หมื่นล้านคน และในการเจริญเติบโตของประชากรเราต้องการแหล่งโปรตีนที่พึ่งพาได้ ซึ่งเมื่อดูจากปริมาณของโปรตีนในจิ้งหรีดแล้ว มีมากกว่าเนื้อเสต็ก หรือสะโพกไก่ถึง 3 เท่า แต่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่ามาก 

แม้ว่าจิ้งหรีดเคยเป็นอาหารของชาวญี่ปุ่นจำนวนมากที่อาศัยอยู่บริเวณภูเขา แต่วัฒนธรรมดังกล่าวก็ถูกลืมเลือนไป มูจิเล่าว่าทำไมจิ้งหรีดจึงเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีในอนาคต 
1. จิ้งหรีดต้องการอาหารและน้ำน้อยกว่าสัตว์ใหญ่ และยังต้องการพื้นที่น้อยกว่าวัว หมู และไก่อีกด้วย
2. จิ้งหรีดใช้เวลาไม่นานแค่ 35 วันก็โตเต็มวัย รวมถึงการสืบพันธุ์ก็ใช้เวลาสั้นมาก
3. อาหารของจิ้งหรีดจะเป็นจำพวกข้าว แต่นอกจากข้าวแล้วจิ้งหรีดก็สามารถกินอย่างอื่นได้เหมือนกัน รวมถึงเศษอาหาร

สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของมูจิ เซมเบ้จิ้งหรีด จะวางจำหน่ายวันที่ 20 พฤษภาคม ผ่านทางออนไลน์

เซมเบ้จิ้งหรีดทำมาจากแป้งจิ้งหรีด (ทำมาจากจิ้งหรีดบด) โดยมีการพัฒนาและได้รับความช่วยเหลือในการวิจัยจาก Tokushima University มูจิได้เขียนไว้ว่า “เพื่อให้ได้รสชาติเซมเบ้จิ้งหรีดที่ดีที่สุด เราได้ตัดส่วนผสมที่ไม่จำเป็นออก และทำออกมาให้เรียบง่ายที่สุด” หรือนี่จะเป็นวัฒนธรรมการกินรูปแบบใหม่ของญี่ปุ่น ที่อาจเป็นแรงขับเคลื่อนในการเผชิญกับปัญหาความมั่นคงด้านอาหารในอนาคต 

สามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้ตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2020 เป็นต้นไป คนชอบกินแมลงแบบเราต้องไปซื้อมาลองชิมสักหน่อยแล้ว