สนามหญ้าบนดาดฟ้า ฟาสต์ฟู้ดจากอเมริกา เสน่ห์ของญี่ปุ่น ร้านขายสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นจากจิบลิ สินค้าไฮเอ็น

Miyashita Park (มิยาชิตะ พาร์ค)

Miyashita Park แต่เดิมเป็นเพียงสวนสาธารณะที่ไม่มีใครสนใจ ที่อยู่ท่ามกลางป่าคอนกรีตที่แสนวุ่นวายใจกลางชิบุย่า มีต้นไม้อยู่เพียงนิดหน่อย แต่ทั้งหมดนี้ก็ได้รับการเปลี่ยนให้เป็นแหล่งช้อปิ้งแห่งใหม่ ด้วยสินค้าจาก designer brand ร้านหนังสือ คาเฟ่ ร้านของของจุกจิก รวมถึงร้านอาหารหลากหลายประเภท และสวนสาธารณะก็ได้ถูกย้ายขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้า! 

ก่อนหน้านี้ทางทีม Japankuru ได้สำรวจแหล่งช้อปปิ้งที่จะเปิดในช่วงโตเกียวโอลิมปิก 2020 (ก่อนที่จะถูกเลื่อน) ไม่ว่าจะเป็น Tokyo Mizumachi ที่อยู่ระหว่าง อาซากุสะ และโตเกียวสกายทรี รวมถึง Waters Takeshiba ที่ Tokyo Bay รวมถึงข่าวลือที่จะมี ร้านขายสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่นจากจิบลิ ที่ใจกลางเมืองโตเกียว เราจึงต้องไปดูให้เห็นกับตา!

เนื่องจาก Miyashita Park จำกัดจำนวนคนเข้าในแต่ละวัน จึงต้องทำการจองและมีการแจกบัตรคิว สำหรับเราก็ได้จองเป็นที่เรียบร้อย จากนั้นล้างมือด้วยแอลกอฮอล์สเปรย์ วัดไข้ และก็ไปลุยกันได้เลย

แม้ว่าจำนวนคนตอนนี้จะมีไม่มาก เพราะมีการจำกัดจำนวนคนเข้า แต่ในอนาคตหลังจากสถานการณ์ต่างๆเริ่มดีขึ้นคนจะต้องเยอะขึ้นตามแน่ๆ เพราะที่นี่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่หญ้าสีเขียว ที่นั่งพักหลังจากช้อปจนเหนื่อย และวิวย่านชิบุย่า ส่วนฉากหลังในภาพด้านบนคือ โรงแรม Sequence โรงแรมที่เพิ่งสร้างเสร็จใจกลางชิบุย่า และอยู่ติดกับ Miyashita Park อีกด้วย

ได้กินกาแฟอร่อยในบรรยากาศดี สตาร์บัคส์สาขานี้ต้องมีคนมารอต่อแถวยาวเหยียดแน่ๆ 

นอกจากนี้บริเวณชั้นดาดฟ้ายังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่น่าสนใจอีกเล็กน้อย นั้นก็คือ ลานออกกำลังกายอเนกประสงค์ (Multi-Purpose Excercise Facility) สามารถเล่นวอลเลย์บอลชายหาด ในราคา 6,500 เยน ต่อชั่วโมง สำหรับผู้ใหญ่ยังมีกิจกรรมปีนหน้าผาจำลอง และลานเสก็ต ให้ออกกำลังกายกัน ในราคา 500 เยนต่อ 2 ชั่วโมง

ยิ่งในวันที่ร้อนมากๆ การได้มาพักผ่อนมองหญ้าสีเขียวๆ ก็ทำให้คลายความร้อนลงไปบ้าง

ที่ Miyashita Park มีรูปปั้นหมาฮาจิโกะเป็นของตัวเอง และในตอนกลางคืนก็มีการเปิดไฟให้น้องด้วย

ช้อปปิ้ง

ถัดจากชั้นดาดฟ้าก็จะมีอีก 3 ชั้น ที่เป็นโซนสำหรับช้อปปิ้ง และโซนอาหาร รวมถึงแบ่งออกเป็นฝั่งทิศเหนือ และฝั่งทิศใต้ โดยมีถนนวิ่งผ่านตรงกลาง สินค้าส่วนใหญ่ในโซนช้อปปิ้งจะเป็นสินค้า high-end ทั้ง Coach, Louis Vuitton อยู่บริเวณฝั่งทิศเหนือ นอกจากนี้ยังมีแบรนด์อื่นๆที่น่าสนใจ ทั้งแบรนด์ขวัญใจคนไทยอย่าง adidas ร้าน zakka หรือร้านขายของจุกจิกสไตล์ญี่ปุ่นมากมาย ที่มีทั้งของใช้ในชีวิตประจำวัน เครื่องครัว เครื่องเขียน ฯลฯ ในรูปแบบที่แตกต่างและหลากหลาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีร้านที่โดนใจเราอยู่เหมือนกัน

ปี 2016 จิบลิ (Ghibli) ได้ถือกำเนิดแบรนด์ GBL ขึ้น เพื่อขายสินค้าที่มีความแตกต่างจากสินค้าจากร้านของ Studio Ghibli ในตอนนั้น เพราะเราสามารถพบเห็นสินค้าของจิบลิได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาโตโตโร่ ของใช้ในบ้าน หรือสินค้าอื่นๆลวดลายจากอนิเมชั่น สำหรับ GBL แล้วนั้นต้องการนำเสนอภาพลักษณ์ของจิบลิในรูปแบบใหม่ โดยขายเสื้อผ้าสไตล์ American Casual โดยเปิดที่ Miyashita Park เป็นที่แรก

สินค้าหลักของ GBL คือ เสื้อยืดจิบลิ ที่ผลิตจากผ้าหนาอย่างดี ลายสรีน การเย็บ และการตกแต่ง ก็จะเป็นลายที่ได้แรงบันดาลใจจากอนิเมชั่นของจิบลิ นอกจากเสื้อยืดก็มีเครื่องประดับ และสินค้าอื่นๆที่ไม่มีขายที่อื่น สำหรับเราที่เป็นแฟนตัวยงของจิบลิแล้วบอกได้เลยว่าได้ใช้เวลาอยู่ที่นี่ค่อนข้างนานพอสมควร  เพราะทั้งตื่นเต้นกับสินค้า และการตกแต่งของร้าน

ลองมองดีๆ แถวนี้อาจมีพลังงานบางอย่างซ่อนอยู่ก็ได้นะ

บนชั้นเดียวกันมี En Studio ซึ่งตอนเราไปก็ได้เห็นมีคนกำลังซ้อมเต้นอยู่ด้วย 

ถัดจาก GBL ก็จะเจอร้านขายแผ่นเสียง Face Records ที่ไม่ได้มีเฉพาะแผ่นวินเทจอย่างเดียว แต่มีซีดีเพลง และเครื่องเล่นแผ่นเสียงด้วย

เมื่อมองลงไปที่ชั้น 2 เห็นคนต่อแถวยาวเหยียด พวกเราก็นึกว่าเป็นแถวจากร้าน Kit Kat Chocolatory เพราะร้านนี้ไม่ธรรมดาตรงที่ สามารถทำคิทแคทเองได้ แต่ไม่ใช่! เพราะแถวยาวเหยียดนี้เป็นแถวของร้าน Jamba Juice แบรนด์สมูทตี้น้ำผักผลไม้จากอเมริกา (มีสาขาในไทยด้วย) ที่มาพร้อมเมนูพิเศษอย่าง blue smoothie ที่มีเฉพาะที่ Miyashita Park เท่านั้น

นอกจากที่ Kit Kat Chocolatory จะขายคิทแคทหลายรสชาติแล้ว ยังมีไอศครีมคิทแคทซันเด ที่สามารถรับประทานได้ในร้าน ในทีม Japankuru ได้ลองซื้อคิทแคทรส cacao fruit กลับมาลองชิมที่บ้าน เป็นช็อคโกแลตที่มีความฟรุตตี้ที่สุดเท่าที่เคยกินมา และแพคเกจของคิทแคทนี้ได้ถูกออกแบบโดย Misaki Tanaka นักวาดภาพประกอบชื่อดังของญี่ปุ่น

เปียโนคิทแคท

ใกล้ๆกันเป็นร้าน #FFFFFFT.zip ร้าน pop-up ที่ขายแต่เสื้อยืดสีขาว ของแบรนด์ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการ collaboration ร่วมกันกับแบรนด์ 

ชั้น 2 ฝั่งทิศใต้ เป็นโซนที่เหมาะกับคนที่กำลังหาของฝากหรือของขวัญ นอกจากร้านคิทแคทแล้ว ยังสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ unique ไม่เหมือนใครได้ที่นี่ ซึ่งบริเวณนี้เรียกว่า “The Shibuya Souvenir Store” มีของฝากจากโตเกียว รวมถึงสินค้าจากอนิเมะเรื่องดาบพิฆาตอสูรด้วย

รองเท้าหนังฉลุลายด้วยตัวคันจิ เขียนว่า ชิบุย่า (渋谷) เป็นภาษาญี่ปุ่น สามารถไปลองใส่ หรือซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกได้ที่ ร้านขายเครื่องหนัง Sukima ที่อีกฟากหนึ่งของชั้น 2

ลงไปชั้นล่าง ไปช้อปร้านสุดท้ายกัน

พวกเรารู้สึกสะดุดตากับเจ้าเป็ดยักษ์ในร้าน Louis Vuitton เป็นอย่างมาก เพราะเจ้าเป็ดตัวนี้กำลังโปรโมทสินค้าไลน์ LV MADE ที่มีการ collaboration กับ Nigo ดีไซน์เนอร์แบรนด์ Bape ที่เห็นได้จากป้ายโฆษณาตามทางที่เดินจากสถานีชิบุย่ามายัง Miyashita Park ถึงแม้ว่าพวกเราไม่ได้ซื้ออะไรจาก Louis Vuitton (men) แต่พนักงานทุกคนก็น่ารักมาก ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี 

อาหาร

หลังจากได้พักผ่อนบนชั้นดาดฟ้า เดินช้อปปิ้งจนเหนื่อยแล้ว ก็ได้เวลาของการกินแล้ว อาหารที่ Miyashita Park มีให้เลือกตั้งแต่ คาเฟ่ ฟาสต์ฟู้ด หรือแม้กระทั่งร้านอาหารหรูหรา

หนึ่งในแหล่งของกินที่อยู่ฝั่งทิศใต้บริเวณชั้น 1 หรือที่เรียกว่า ตรอกชิบุย่า (渋谷横丁, Shibuya Yokocho, ชิบุยะโยโกะโจ) มีร้านอาหารเล็ก ๆ 19 ร้าน ที่มีทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น และอาหารเอเชียมากมาย

การตกแต่งร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่น เพิ่มบรรยากาศให้น่านั่งรับประทาน เราชอบคอนเซปต์ของการรวมร้านอาหารต่างๆมาไว้ที่เดียว หากสถานการณ์โควิดดีขึ้น เราจะมาซ้ำแน่นอน

ทางฝั่งทิศเหนือของ Miyashita Park จะเป็นส่วนที่มีบรรยากาศสบายๆ ราคาอาหารก็ไม่แพงจนเกินไป เหมาะกับนักท่องเที่ยวทั่วไป ที่นั่งในส่วน outdoor จะตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น เหมาะแก่การนั่งกินข้าวกลางวัน หรือนั่งพักผ่อนในวันสบายๆ

ทีม Japankuru เลือกที่จะรับประทานอาหารกันที่ Food Hall ศูนย์อาหารที่อยู่บนชั้น 3 ที่นี่จะต้องฮิตในหมู่คนต่างชาติที่อยู่ในญี่ปุ่นแน่ๆ แต่สำหรับนักท่องเที่ยวน่าจะชอบที่ Shibuya Yokocho มากกว่า เพราะได้ทั้งกินอาหารญี่ปุ่น ไปพร้อมกับบรรยากาศแบบญี่ปุ้นญี่ปุ่น ที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น สำหรับที่ศูนย์อาหารนั้นมีทั้งแมคโดนัลด์, Maguro Market (Poke bowl อาหารฮาวายที่หน้าตาคล้ายอาหารญี่ปุ่น), Taco Bell, และ Panda Express  

และเราก็เลือกเป็น Poke (โปเกะ) แม้ว่าจะดูเผินๆว่านี่เป็นอาหารญี่ปุ่นแบบฟิวชั่นรึเปล่า แต่จริงๆแล้วนี่คืออาหารฮาวาย!

ร้าน Eggslut ก็มาเปิดที่นี่เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ได้ไปเปิดสาขาที่ชิจุกุมาแล้ว ผลตอบรับดีมาก และคนก็แน่นมากเช่นกัน และเราคิดว่าสาขาชิบุย่าก็คงจะแน่นไม่แพ้กัน!

ได้เวลาต้องกลับบ้านแล้ว จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ที่ Miyashima Park ต้องจำกัดจำนวนคนเข้า แต่พวกเราก็สนุกสนานมาก ได้เดินช้อปปิ้งแบบคนไม่เยอะ แต่ร้านค้าหนึ่งได้เล่าให้เราฟังว่า “ถ้าสถานการณ์ยังเป็นแบบนี้อยู่ ร้านค้าต่างๆคงอยู่กันไม่ไหว”  เราก็เข้าใจถึงสถานการณ์ได้ดี แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะแก้ปัญหานี้ให้หมดไปในเร็ววัน เราก็ได้แต่หวังว่าจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะลดจำนวนลง จนเหลือเป็นศูนย์ 

หากมีแพลนที่จะไปเที่ยวชิบูย่าในอนาคต อย่าลืมแวะไปที่ Miyashita Park ไปดูสถาปัตยกรรมเท่ๆบนชั้นดาดฟ้า หรือหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในญี่ปุ่นก็สามารถไปคุยกับเราได้ที่ Facebook และที่ Twitter