5 สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อไป “เซโตอุจิ”

Shikoku / chugoku Tour ทะเล 2020.12.23
เซโตอุจิ คือทะเลในที่อยู่ระหว่างภูมิภาคชูโกกุและชิโกกุ มีครบทั้งธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว และอาหารอร่อย
“เซโตอุจิ” หรือทะเลในเซโตะ เป็นทะเลที่ห้อมล้อมด้วย 7 จังหวัด ได้แก่ ยามากุจิ ฮิโรชิม่า โอคายาม่า เฮียวโกะ เอฮิเมะ คากาวะ และโทคุชิมะ และมีเกาะน้อยใหญ่กระจายตัวทั่วบริเวณ เป็นบริเวณที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ แวะเที่ยวเกาะโน้นเกาะนี้ รับประทานอาหารอร่อยๆ โดยเฉพาะคนที่ชอบการท่องเที่ยวแบบสโลว์ไลฟ์ ค่อยๆปั่นจักรยาน หรือขับรถเล่น

ที่มารูปภาพ: Google Map

1. เช็คอินที่น้ำวนนารุโตะ

เกาะอาวาจิ เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในทะเลเซโต ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดเฮียวโกะและจังหวัดโทคุชิมะ โดยมีสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลกเชื่อมเข้าด้วยกัน โดยสะพานที่ใช้ข้ามเรียกว่า สะพานโอะนารุโตะ มีความยาว 1629 เมตร และถูกเลือกให้เป็น 1 ใน 100 สถานที่ที่งดงามของญี่ปุ่น (日本百景) โดยเฉพาะน้ำวนนารูโตะ ถูกเลือกให้เป็น 3 สุดยอดน้ำวนของโลก


Naruto Strait (鳴門海峽) 
Naruto, Tokushima 772-0053

2. ซื้อน้ำมันมะกอก

เกาะโชโดชิมะ จังหวัดคากาวะ เกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในเขตทะเลเซโตอุจิ และยังเป็นแหล่งปลูกมะกอกคุณภาพดีของญี่ปุ่น 

3. เขามิตากะยามะ (Mitakayama Houdaiato, 三高山砲台跡)

เกาะเอทาจิมะ (江田島) เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของเกาะในทะเลในเซโต บนเกาะเต็มไปด้วยซากป้อมปืนของกองทัพและโรงเรียนเก่า ที่อาจทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต จากซากปรักหักพักเหล่านี้ กิจกรรมที่นิยมทำกันก็คือกิจกรรมเอาท์ดอร์ทั้งหลาย เช่น ปั่นจักรยาน ปีนเขา พายเรือคายัค รวมทั้งยังเป็นจุดที่นิยมมาชมพระอาทิตย์ตกกันในตอนเย็นอีกด้วย

4. ชิมเลมอนเซโตอุจิ

ของขึ้นชื่อในบริเวณนี้ก็คือเลมอน ไม่ว่าจะเป็นน้ำเลมอนสดๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเลมอน แยมเลมอน ขนมเลมอน รับรองว่าต้องได้ติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอย่างน้อยหนึ่งอย่างแน่นอน

ที่มารูปภาพ: Shun-Gate 

รู้หรือไม่ เลมอนที่ปลูกในญี่ปุ่นกว่า 62% นั้นปลูกที่ฮิโรชิม่า (เซโตอุจิ)!!

ที่มารูปภาพ: setouchi-lemon

ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ทำจากเลมอน ทั้งซอสเลมอน ขนมเลมอน แยมเลมอน

5. ขอพรที่ศาลเจ้าอิสึคุชิมะ

ศาลเจ้าอิสึคุชิมะตั้งอยู่ที่เกาะมิยาจิมะ ห่างจากสถานีรถไฟฮิโรชิม่าประมาณ 1 ชั่วโมง โดยต้องนั่งเรือต่อเพื่อข้ามไปยังเกาะมิยาจิมะประมาณ 10 นาที 

ศาลเจ้าแห่งนี้มีประตูโทริอิสีแดงขนาดใหญ่ที่อยู่กลางน้ำ ที่ทำจากต้นยูคาลิปตัส ไม่เน่าเปื่อยได้ง่าย สำหรับในช่วงเวลาน้ำลงเราสามารถเดินลงไปเพื่อถ่ายรูปใกล้ๆได้

ที่ศาลเจ้าแห่งนี้มีเครื่องรางที่ดังเรื่องการคุ้มครองให้เดินทางปลอดภัย หากใครต้องเดินทางบ่อยๆ ลองหาซื้อมาติดกระเป๋าไว้จะได้อุ่นใจมากขึ้น 
หลังจากขอพรและซื้อเครื่องรางเรียบร้อย มีเวลาเหลืออีกหน่อย มานั่งดูพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็เป็นอีกจุดที่น่าสนทีเดียว
นี่เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งของสิ่งที่น่าทำและน่าไปในบริเวณเซโตอุจิ เนื่องจากบริเวณเซโตอุจิมีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง กินพื้นที่หลายจังหวัด จึงเหมาะกับการเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน (หรือมากกว่านั้น) เพื่อเก็บให้ครบทุกจุดสำคัญ และวิธีการเดินทางที่เราแนะนำก็คือ การขับรถเอง เพราะสามารถกำหนดเวลาเองได้ และสะดวกต่อการไปตามสถานที่ต่างๆ 

สามารถติดตามข้อมูลการท่องเที่ยว และเรื่องราวจากญี่ปุ่นกับ Japankuru ได้ทาง Facebook และ Twitter !
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS