Tokyo’s hidden gem ชวนแวะ Rojicoya คาเฟ่ลับที่ซ่อนอยู่ในคิตะเซ็นจู

Tokyo Entertainment Kitasenju 2023.12.25
Rojicoya ร้านลับ ๆ ที่ซ่อนอยู่ในตรอกด้านหลังของคิตะเซ็นจู ภายนอกร้านมีลักษณะเป็นบ้านไม้สีขาวที่ไม่ได้ดูเตะตาอะไร หากเรามองผ่าน ๆ อาจจะไม่ทันสังเกตเลยก็ได้ วันนี้ทีมงาน Japankuru เลยอยากจะพาทุกคนมาตามหาว่าคาเฟ่แห่งนี้มีอะไรซ่อนอยู่บ้าง
Rojicoya มีอะไรให้ทำบ้าง?
เริ่มตั้งแต่กิจกรรมที่เป็นจิตวิญญาณแห่งญี่ปุ่นอย่างบูชิโด (Bushido) เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ฮอตฮิตที่สุดของทางร้าน เพราะเราจะได้จับดาบของจริง! และได้ลองใช้ดาบจริง ๆ ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ แถมทางร้านยังมีชุดฮากามะให้ใส่เข้ากับบรรยากาศสุด ๆ พร้อมชาให้ดื่มฟรีหลังจบกิจกรรมอีกด้วย โดยคลาสนี้เปิดสอนทุกวันพุธ ศุกร์ และเสาร์จะใช้เวลาประมาณ 90 นาที และราคาจะอยู่ที่คนละ 22,000 เยน

แต่ว่าถ้าใครไม่ใช่สายลุย ที่นี่ก็มีสอนจัดดอกไม้ หรือ Ikebana ให้ได้นั่งจัดดอกไม้สวย ๆ ด้วย โดยคลาสนี้จัดทุกวันพฤหัสบดีที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน
หรือสำหรับใครที่ชอบเล่นดนตรี เขาก็มีให้ลองเล่น Tsugaru Shamisen (津軽三味線) ชามิเซ็นเก่าแก่มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่จังหวัดอาโอโมริ เปิดสอนในทุกวันพฤหัสบดีที่ 1 และ 3 ของเดือน ใช้เวลาเรียนประมาณ 1 ชั่วโมง ราคาครั้งละ 7000 เยน โดยปกติแล้วสามารถเข้าร่วมได้ครั้งละไม่เกิน 3 คน สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่เลย
พอเห็นว่าชามิเซ็นเป็นเครื่องสาย หลาย ๆ คนก็อาจจะเข้าใจว่า วิธีการเล่นชามิเซ็นคือ “การดีด” ใ่ช่ไหมคะ แต่ความจริงแล้ว ชามิเซ็นเล่นโดย “การตบ” ลงไปที่สายต่างหาก ถ้าอยากรู้ว่าตบยังไง ขอแนะนำให้ลองมาเล่นเลยค่ะ อาจารย์ก็น่ารักใจดีมาก ๆ รับรองว่าจะต้องหลงเสน่ห์ชามิเซ็นอย่างแน่นอน!
ไม่เพียงแค่ชามิเซ็นเท่านั้น ที่ Rojicoya ยังมีคอร์สสอน "โคโตะ" (Koto) หรือพิณญี่ปุ่น 13 สายด้วยเช่นกัน วิธีการเล่นนั้นจะใช้มือขวาดีดโดยใช้นิ้วโป้ง นิ้วชี้ และนิ้วกลางเป็นหลัก ส่วนมือซ้ายจะใช้กดลงที่สายเพื่อทำให้เกิดเสียง โดยปกติแล้วผู้เล่นที่ฝึกฝนโคโตะจนชำนาญแล้วจะนิยมใส่ปลอกนิ้วที่เรียกว่า "ทสึเมะ" (tsume) เพื่อให้เสียงใสกังวาน แต่สำหรับ beginner การเล่นแบบไม่มีปลอกนิ้วจะง่ายกว่า และเสียงที่ออกมาจะนุ่มกว่าเล็กน้อย

ทั้งชามิเซ็นและโคโตะอาจให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันเมื่อได้ลองเล่น ชามิเซ็นอาจทำให้รู้สึกสนุกสนานมีชีวิตชีวา ส่วนโคโตะอาจทำให้รู้สึกสงบ แต่อย่างไรก็ดี ทั้งสองชนิดนี้ต่างก็เป็นเครื่องดนตรีตัวแทนของประเทศญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์และเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใครเลย

นอกจากเครื่องดนตรีแล้ว ที่นี่ก็มีเปิด workshop เขียนพู่กันญี่ปุ่น ที่จะพาเราเข้าไปสู่โลกแห่งความสงบภายในจิตใจผ่านการจรดพู่กันบนกระดาษ โดยปกติจะเปิดสอนวันจันทร์และอังคาร 10.00-11.30 น. ที่พิเศษมาก ๆ คือสอนโดยคุณโยชิกะ โยเนโมโตะ เจ้าของร้านและผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนพู่กันเองเลย ราคาอยู่ที่คนละ 1000 เยนเท่านั้น!  
คาเฟ่วันอาทิตย์
อย่างที่เล่าไปข้างบนว่าในช่วงวันธรรมดาจันทร์-ศุกร์ จะเปิดเป็นห้องเรียนวัฒนธรรม ส่วนวันอาทิตย์จะเปิดเป็นคาเฟ่ชาญี่ปุ่น เราสามารถเพลิดเพลินกับชาญี่ปุ่นจากภูมิภาคต่าง ๆ ได้ตั้งแต่ 11.00-17.00 น.เลยค่ะ ทั้งยังมีขนมโดรายากิ ไอศกรีมสาเกจำหน่าย หรือหากอยากลอง “Ochazuke” เมนูข้าวราดชา ทางร้านก็มีให้เราได้ลิ้มลองเช่นกัน ในส่วนของราคาก็บอกเลยว่าน่ารักมาก ๆ ทุกเมนูสองพันเยนมีทอนแน่นอนค่ะ!
วิธีการจอง
อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คิดว่าคงมีหลายคนที่สนใจอยากจะลองเข้าร่วมใช่ไหมคะ สำหรับคนที่สนใจจำเป็นต้องจองก่อน ไม่สามารถ walk in ได้น้า เราสามารถเข้าไปเช็คตารางกิจกรรมได้ที่นี่เลย
วิธีการก็คือ เลือกกิจกรรมที่ต้องการ  ➡ คลิกลิงก์ Detail ที่ Description 
ลิงก์จะพาเราไปหน้าถัดไปตามรูปด้านบนค่ะ 
เลือกวันเวลาและจำนวนคน ➡ กด 予約申し込み หลังจากนั้นก็เพียงแค่ไปที่ร้านตามเวลาที่นัดไว้ได้เลย

ปัจจุบันทางร้านมีให้บริการภาษาญี่ปุ่นเป็นหลักและอังกฤษในบางกิจกรรมอย่างบูชิโด แต่ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะสื่อสารกันไม่เข้าใจนะคะ เพราะทางร้านมีเตรียมเอกสารเป็นภาษาอังกฤษสำหรับแต่ละกิจกรรมไว้ให้ เราสามารถดูเอกสารประกอบตลอดกิจกรรมได้เลย
วิธีการเดินทาง
สำหรับใครที่อยากจะมาลองสัมผัสประสบการณ์เหล่านี้ด้วยตัวเอง สามารถนั่งรถไฟใต้ดินสาย Hibiya มาลงที่สถานี Kitasenju ออกทางออก East จากนั้นเดินอีกประมาณไม่เกิน 10 นาที
ร้านจะอยู่ในซอยเล็ก ๆ จุดสังเกตคือบ้านไม้หลังสีขาว
หรือมาตามแมปด้านล่างได้เลย Google Map Rojicoya 路地裏寺子屋
ลองมาพบกับเสน่ห์ของญี่ปุ่นอีกครั้งผ่านวัฒนธรรมและชาญี่ปุ่นกันเถอะ!
 
Comment
POST
Related Article
ถาม-ตอบ
  • PARTNERS